หนึ่งในรูปแบบบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่ในอดีต ก็คือบุหรี่ไฟฟ้าแบบ Pod system ที่ เป็นที่นิยมสูงสุดในปัจจุบัน เพราะใช้งานง่าย ชาร์จไฟไว แต่รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบัน จะมีรูปแบบใหม่เข้ามาแทนที่ และเราหลายคนอาจปรับตัวไม่ทัน นั่นก็คือ บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่ง จะเรียกสั้นๆว่า พอตใช้แล้วทิ้ง ซึ่งในจุดนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ และอาจมีข้อสงสัยว่า พอตใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อไหนดี ? และในวันนี้ เราจะมาแนะนำแต่ละยี่ห้อ เพื่อมาหาคำตอบกัน

พอตใช้แล้วทิ้ง (Disposable Vape) คืออะไร?

ในวงการ หรือในกลุ่มผู้ใช้งานบุหรี่ไฟฟ้า มักจะมีคำแปลกๆ ที่ทำให้เราไม่เข้าใจได้ ซึ่งบางคนมองว่า พอตใช้แล้วทิ้ง หมายถึง การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแบบมีพอต (Pods) และเมื่อใช้พอตเสร็จแล้วก็โยนทิ้ง หรือ แม้กระทั่งพอต แบบเติมน้ำยาได้เอง และใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น

พอตใช้แล้วทิ้ง ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า “Disposable Vape” หรือ “Puff Bars” คือบุหรี่ไฟฟ้าประเภทใหม่ล่าสุด ที่พึ่งเริ่มมีคนซื้อกันมากขึ้นตั้งแต่ปี 2022 – 2023 ที่มาพร้อมพอตที่เปลี่ยนหัวไม่ได้จากตัวเครื่องสูบ และเมื่อใช้หมดแล้ว สามารถโยนทิ้งได้ทั้งเครื่อง โดยไม่ต้องเปลี่ยนหัวพอต (เนื่องจากติดมากับตัวเครื่อง) ซึ่งเราจะอธิบายต่อไป ว่า เจ้าพอตใช้แล้วทิ้งแบบนี้ มันคืออะไรกันแน่นะ?

ในคำว่าใช้แล้วทิ้ง แต่มีคำว่าพอตมาด้วยนั้น จริงๆไม่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องเรียกว่า บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จึงจะเข้าใจได้ ซึ่ง เจ้าตัวสินค้าใหม่ตัวนี้ จะมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Puff Bars ที่มาพร้อมกับการชาร์จไฟเต็มมาจากโรงงาน มีน้ำยาเติมมาให้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อแกะกล่องออกมา ไม่ต้องชาร์จไฟ สามารถสูบได้ทันที

รูปทรงของมันนั้นมักจะเป็นแบบ บาง มีน้ำหนักเบา และมีขนาดใหญ่กว่าปากกาเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้สามารถพกติดตัวไปได้ในทุกๆที่ โดย ที่ส่วนใหญ่แล้วในต่างประเทศ มักจะเริ่มต้นการซื้อเครื่องแบบ Basic ที่สามารถสูบได้ ราวๆ 400-600 ครั้งเท่านั้น (โดยมีปริมาณนิโคตินรวม เท่ากับ บุหรี่ 20 ตัว หรือ พูดง่ายๆ สูบหมด 1 เครื่อง เท่ากับสูบบุหรี่จริง 1 ซองนั่นเอง

ซึ่งก่อนไปดูว่าจะซื้อ พอตใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อไหนดี เรามาทำความเข้าใจ เรื่องต่างๆ ของอุปกรณ์ใหม่ตัวนี้กันดีกว่า

---

ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว เติมน้ำยาได้ ทำไมต้องเป็นแบบใหม่?

การพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่งในทุกๆด้านของโลกใบนี้ ซึ่ง บุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่คนจับตามองมากที่สุด ณ ขณะนี้ โดยบางคนอาจชื่นชอบในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบเดิมๆ เช่น

• บุหรี่ไฟฟ้าแบบ พอต Pre-filled ที่เติมน้ำยาจากโรงงานมาแล้ว และ สามารถเปลี่ยนหัวพอตตามใจชอบได้
• แบบ Post-filled คือ หัวพอตสามารถเติมน้ำยาได้หลายครั้ง จนกว่า คอยล์ จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ หรือไหม้

ซึ่งกลุ่มลูกค้าลักษณะนี้ จะติดกับแบบเดิมเป็นอย่างมาก และมักมีคำถามว่า ทำไม เราต้องเปลี่ยน มาเป็นรูปแบบ Disposable Vape หรือ แบบ พอตใช้แล้วทิ้ง หล่ะ? เรามีคำตอบในเรื่องนี้

หากเราย้อนมองไปถึงครั้งแรกๆ รุ่นพ่อแม่ ที่สูบบุหรี่จากใบจาก มวนบุหรี่กันเป็นตัวๆ ซึ่งในครั้งนั้น มองว่า เป็นการที่ต้องมีการเตรียมของ เตรียมกระดาษ เตรียมยาเส้น เพื่อมามวนสูบ และในภายหลัง เราได้รู้จักกับบุหรี่เป็นซองๆ ที่ขายในเซเว่น หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ

ซึ่งการซื้อบุหรี่เป็นซองนั้น ใน 1 ซองก็จะมี 20 ตัว และเมื่อฉีกซองออกมาก็สูบได้เลย และ พอตใช้แล้วทิ้งก็เป็นรูปแบบเดียวกันนั่นเอง ซึ่งการเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบใหม่ ไม่ต่างอะไรจากการเปลี่ยนจากการมวนบุหรี่เป็นตัวๆ เป็นการฉีกซองบุหรี่ และดึงออกมาสูบได้ทีละตัว

พอตใช้แล้วทิ้งเปรียบเทียบเหมือนบุหรี่ซอง ที่สามารถแกะออกมาจากกล่องและสูบได้ทันที และเมื่อสูบหมดแล้ว ก็สามารถทิ้งได้เลยเช่นกัน

บุหรี่ไฟฟ้าใช้แล้วทิ้งหรือที่เรียกว่าพอตใช้แล้วทิ้งนั้น เมื่อมีการแกะกล่องออกมาแล้ว จะสามารถใช้งานสูบได้ทันที แตกต่างกันกับ บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นก่อนหน้า ที่เมื่อได้รับสินค้ามาแล้ว อาจต้องทำการชาร์จ เติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าก่อน และรอจนแบตเต็มจึงจะทำการสูบได้ และคำตอบในคำถามว่า ทำไมต้องเปลี่ยน มันก็คือความสะดวกสบายกว่านั่นเอง

---

ความแรงของ Puff Bars (Disposable Vape)

สำหรับคนที่กังวลเกี่ยวกับความแรงของพอตใช้แล้วทิ้ง โดยมากจะเป็นในเรื่องของความเข้มข้นของนิโคตินที่อยู่ในตัวเครื่อง วันนี้เราจะมาดูเรื่องความเข้มข้นของนิโคตินในส่วนต่างๆกัน

บุหรี่จริง มีนิโคตินเท่าไหร่?

สำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้มาก่อน อ้างอิง Nicotinell บุหรี่จริงที่ต้องใช้ไฟแช๊คหรือไม้ขีดไฟจุดสูบ มักจะมีนิโคตินที่อยู่ระหว่าง 8 มิลลิกรัม ไปจนถึง 20 มิลลิกรัม ในการสูบ 1 ตัว โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 12mg มิลลิกรัม ต่อหนึ่งตัว นั่นเอง โดยการสูบบุหรี่นั้น นิโคตินจะถูกดูดซึมผ่านปอดเข้าเส้นเลือดและวิ่งเข้าไปที่สมองในทันที แต่อย่างไรก็ดี ร่างกายของคนสูบอาจได้รับแค่เพียง 1.1 ถึง 1.8 มิลลกรัมเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่า ใน 1 ซอง เราจะได้รับปริมาณนิโคตินที่ 22-36 มิลลกรัม นั่นเอง

แล้ว พอตใช้แล้วทิ้งมีนิโคตินเท่าไหร่? สูบเท่าได้นานมั้ย?

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าประเภทใช้แล้วทิ้ง อย่าง Disposable Vape นั้น มักจะมีการกำหนดเป็นคำๆ เช่น แบบ พอตใช้แล้วทิ้ง 2000 คำ 5,000 คำ หรือ 10,000 คำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณความจุของตัวเครื่องด้วย และเราหาข้อมูลเกี่ยวกับ ปริมาณนิโคตินที่อยู่ในการสูบได้ดังนี้

• แบบ 1,000 คำ = เมื่อสูบหมด จะเท่ากับการสูบบุหรี่จริง 10-15 ตัว¹
• 2,000 คำ = ระดับนิโคตินจะอยู่ที่ 50mg² ซึ่งมากกว่าบุหรี่ 1 ซอง และอาจเทียบเท่าบุหรี่ 30 ตัว หากคำนวณจากแบบ 1,000 คำ
• 5,000 คำ = อาจสามารถคำนวณได้ว่า มีปริมาณนิโคตินที่จะได้รับเป็น สองเท่ากว่าๆ จากตัว 2,000 คำ และ สามารถสูบได้ ประมาณ 2 สัปดาห์³ สำหรับผู้ที่สูบบ่อยๆ

อ้างอิง 1 | 2 | 3

---

ถ้าเป็นคนสูบบุหรี่ 1 ซอง ต่อวัน จะต้อง ใช้ พอตใช้แล้วทิ้งแบบไหน?

เทียบกับบุหรี่จริง

การสูบบุหรี่จริง โดยปกติแล้ว 1 ตัว จะสูบได้ราวๆ 14 คำ (14 puffs) ซึ่ง หากเป็นคนสูบบุหรี่ วันละ 1 ซอง จะเท่ากับสูบทั้งสิ้น 14 X 20  = 280 คำต่อวัน โดยข้อมูลจาก Pubmed พบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะ Disposable Vape หรือ พอตใช้แล้วทิ้ง ด้วยปริมาณ นิโคติน 14.4-32.8 มิลลิกรัม และสูบ 200 คำ จะเท่ากับการสูบบุหรี่จริง 13-30 ตัว

ถ้าเป็น Disposable Vape จะต้องซื้อตัวไหน?

สำหรับการคำนวณการสูบ ที่บอกไปแล้วข้างต้น หากเป็นบุหรี่จริง 1 ซอง จะสูบวันละประมาณ 200-280 คำ ซึ่ง พอตใช้แล้วทิ้งถูกออกแบบมาให้ “ครอบคลุม” อยู่แล้ว เพราะโดยมากเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000 คำ ไปจนถึง 10,000 คำ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะชอบกลิ่นหรือรสชาติแบบไหน? ทีนี้ เราต้องมาดูกันว่า เราจะเลือกยี่ห้อไหนดี?

---

บุหรี่ไฟฟ้า พอตใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อไหนดี?

ใน Section นี้ เราจะรวมบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง ทั้งหมดทุกแบรนด์ ที่คนไทยนิยมเลือกใช้กัน และในบางยี่ห้อ ต่างประเทศก็นิยมใช้ด้วย

Quik 800 / 2000 (10 รสชาติ)

พอตใช้แล้วทิ้ง Quik มีหลากหลายรสชาติยังไม่พอ ยังมีให้เลือกสองรูปแบบคือ

• Quik 800 Puffs สูบได้ 800 คำ
• Quik 2000 Puffs สูบได้ 2000 คำ

โดยเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ขณะนี้ เพราะมีหลายรสชาติเช่น ส้ม โซดา, องุ่น, เลม่อน, แตงโม, บลูเบอรี่, โคล่า, สัปปะรด, ช๊อกโกแลตมินท์, กลิ่นยาสูบ, และ กลิ่น มินท์แบบเย็น โดยที่มีราคาระหว่าง 120 – 200 บาท แล้วแต่ช่วงเวลา

มีให้เลือกระดับนิโคติน ระหว่าง 3% และ 5% และสามารถสูบได้โดยไม่ต้องกดปุ่ม แกะกล่องออกมาใช้งานได้เลยทันที และถ้าหากน้ำยาหมดแล้ว ทิ้งได้เลย ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้

VMC 600 / 5000 puffs 

ชื่อของแบรนด์ก็คือ VMC และมีให้เลือกสองแบบคือ 600 คำ และ 5000 คำ และมีจุดแตกต่างกันดังนี้

VMC 600

มีทั้งหมด 19 รสชาติ ซึ่งคาดว่ามากที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน และมีระดับนิโคตินที่ 3% เหมาะสำหรับคนที่สูบเป็นประจำ มีแบตเตอรี่ ที่ 400mAh จุใจ ไม่ต้องชาร์จบ่อย ซึ่งการที่สูบได้ถึง 600 คำจะเทียบเท่ากับบุหรี่จริง 30 มวน

รสชาติที่มีอยู่ในตลาด ณ ปัจจุบัน คือ :  โยเกิร์ต, สตรอเบอรี่แคนดี้, ไอติมเมล่อน, ชามะนาว, แอปเปิ้ล, อาซาฮี, นม, แตงโม, สตรเบอรี่, สตรอเบอรี่เย็น, สัปปะรด, ส้ม, น้ำแร่, ลิ้นจี่, เลม่อน, องุ่น, ดับเบิ้ลมินท์, โคล่า, และ บูลเบอรี่ 

VMC 5000 

ต่างจากตัว 600 เพราะมีรสชาติมากถึง 25 รส ด้วยกัน ด้วยระดับนิโคตินที่เท่ากัน แต่จะสามารถสูบได้มากกว่า 5,000 คำ หรือเทียบเท่าบุหรี่ 250 ตัว หรือประมาณ 13 ซอง (มากกว่า 1 คอตตอน) และมีกำลังไฟที่สูงถึง 1000mAh ทำให้สามารถสูบได้นานกว่า ฟินกว่า ไม่บาดคอ

รสชาติที่มีอยู่ในตลาด ณ ปัจจุบัน คือ : เยลลี่องุ่น, พีช, บลูเบอรี่ แยม, แยมส้ม, โอวัลติน, สไปรท์, แยมสตรอเบอรี่, มะนาว, โยเกิร์ต, ซูกัส แอปเปิ้ล, สไปร์ท ลิ้นจี่, เพลย์มอร์ แตงโม, สัปปะรดทิปโก้, โอเล่ สตรอเบอรี่, กลิ่นนมตราหมี, น้ำแร่, เมล่อน, ลอตเต้บลูเบอร์รี่, ชาลิปตัน, ไอศครีมสตรอเบอรี่, แฟนต้าสตรอเบอรี่, แฟนต้าน้ำส้ม, ดับเบิ้ลมินท์, แฟนต้าองุ่น, และ โคล่า

Jues 5000 / 10000 Puffs

มีสองรูปแบบเช่นเดียวกันกับ VMC ด้านบน คือมีแบบสูบได้ 5000 และ 10000 คำ

Jues 5000

 

สามารถสูบได้ 5,000 คำ เทียบเท่าบุหรี่ 250 ตัว ด้วยปริมาณนิโคตินที่ 3% (เทียบเท่า 30 มิลลิกรัม) มาพร้อมกับความจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากถึง 10ml เรียกได้ว่าสูบกันสะใจ และให้พลังงานด้วยความจุแบตเตอรี่ถึง 600mAh ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยแน่นอน มีกลิ่นและรสชาติให้เลือก 12 แบบด้วยกันคือ

แอปเปิ้ลพีช, เบอรี่เลม่อน, บลูเบอรี่, โคล่า, องุ่น, เมล่อน, พีช, มะม่วงเสาวรส, เมนทอล, ลูกอมเรนโบว์, สตรอเบอรี่โยเกิร์ต, และ แตงโม ยอดนิยม

Jues 10000

เป็นตัวที่สามารถสูบได้เยอะที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ หากใครใช้ตัว 5000 มาแล้ว และอยากสูบได้นานๆ ควรซื้อตัวนี้ไปใช้ เทียบเท่ากับบุหรี่ 500 ตัว ด้วยนิโคติน 3% เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ดี แบตเตอรี่ มากกว่าแค่เพียง 650mAh อาจต้องชาร์จไฟบ่อย แต่สำหรับตัวน้ำยาก็ต้องเป็นสองเท่าของตัว 5000 อยู่ที่ 20ml

สตรอเบอรี่เย็น, สตรอเบอรี่ฝรั่ง, น้ำแร่, เลม่อนออกเค็มชีสเค้ก, กาแฟลาเต้, แมชเมลโล่, ซิตรัส สตรอเบอรี่ พีช, เบอรี่, มิลคเชก กลิ่นกล้วย, ผลไม้, แอปเปิ้ล, และสตรอเบอรี่ มะม่วง

ซึ่งจะเห็นได้ว่า รสชาติ และ กลิ่นของตัว Jues 10000 มักจะเป็นการผสมกันระหว่างกลิ่นหลายๆกลิ่นในหนึ่งตัว ซึ่งน่าสนใจมากเลยทีเดียว

RELX 600 Bubblemon

อันที่จริงแล้ว RELX เป็นแบรนด์ที่ เป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยนพอตได้ และ มีหลากหลายสี และที่ดังที่สุดในประเทศไทยก็คื RELX Infinity แต่ด้วยกระแสที่เปลี่ยนไปที่คนหันมานิยมแบบสูบทิ้งหรือพอตใช้แล้วทิ้ง โดยคนไทยนิยมเรียกว่า RELX 600 Puffs

สำหรับในต่างประเทศ อย่างในประเทศอังกฤษ จะมีรุ่น Relx X Bubblemon แบบ 1600 puffs ด้วย ซึ่งในประเทศไทยมักจะมีจำหน่ายแค่เพียง 600 puffs มีนิโคินให้เลือก 1.65% และ 5% ซึ่งแนะนำว่า สำหรับคนที่ไม่ชอบแรง ให้เลือก 1.65% และ คนที่ชอบหนักๆ ให้ใช้ 5% ซึ่งเป็นแบบ Vape Bar หรือ Disposable Vape

โดยแบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ใหม่ ภายใต้ความร่วมมือของ Relx และ Bubblemon ตัวเครื่องมีสีสันสดใส สวยงาม และสำหรับ 600 คำที่ขายกันอยู่นั้น จะมีน้ำยาอยู่ที่ 6ml มีทั้งสิ้น 8 กลิ่น รสชาติด้วยกันคือ

กลิ่นผลไม้ แบบ Tropical Fruit, Nutty Tobacco, ลิ้นจี่ เมล่อน, เมนทอลส้มซิตรัส, บลูเบอรี่มะนาว, กลิ่นใบยาสูบ, กลิ่นองุ่น, รสชาติแบบเครื่องดื่มชูกำลัง, และ องุ่นว่านหางจระเข้

INFY 6000 ( This is Salts)

แบรนด์ INFY เป็นแบรนด์ยอดนิยมมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุด ออก INFY 6000 Puffs มาาในตลาดเป็นแบบสูบทิ้ง หรือ พอตใช้แล้วทิ้งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นการพัฒนาจากบริษัท “This is salts” ผู้ผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ดังเป็นพลุแตก ณ ขณะนี้

สำหรับ INFY 6000 เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น เนื่องจากมีสีสันและรูปลักษณ์ที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก โดยหัวสูบ จะเป็นหลด คล้ายๆ หลอดน้ำ และมีกลิ่นให้เลือก 10 กลิ่น คือ โคล่า, ไอศครีมสตรอเบอรี่, แตงโมลิ้นจี่, แอปเปิ้ลองุ่น, ผลไม้รวม, สตรอเบอรี่กีวี่, สตรอเบอรี่แตงโม, สตรอเบอรี่กล้วย, องุ่นซากุระ, และ มะม่วงพีช ที่เป็นที่นิยม

การสูบก็เป็นได้อย่างนิ่มนวล ไม่บาดคอ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 550mAh ซึ่งแน่นอนว่าต้องชาร์จบ่อยกว่า เนื่องจากสูบได้ 6000 คำ ตัวเครื่องทำจากพลาสติกผสมซิลิโคน น้ำหนักเบา มีนิโคตินเท่ากันกับทุกยี่ห้อคือ 3% หรือ 30mg

ทำไมบางคนเลือกน้อยกว่า 1,000 คำ (หรือ สูบได้น้อยๆ) ? 

นั่นเป็นเพราะว่า คนที่ซื้ออาจจะยังไม่แน่ใจในเรื่องของ แบรนด์ ยี่ห้อ และรสชาติ ที่เลือกมาทดลองสูบ เนื่องจาก รสชาติและกลิ่นมีหลากหลาย การเลือกซื้อ พอตใช้แล้วทิ้งแบบสูบได้น้อยๆ มาทดลองก่อน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะหากว่าไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อ อีกทั้ง คำน้อยๆ มักจะมีราคาไม่สูงมากนักด้วย

สูบได้นานๆ แล้ว สูบวันนึงกี่คำ ถึงจะปลอดภัย?

การที่พอตสูบแล้วทิ้งแต่ละตัวที่สามารถสูบได้หลายพันคำ และ บางตัว 10,000 คำ ก็เป็นเรื่องดี ที่ไม่จำเป็นจะต้องซื้อบ่อย (ยกเว้นหาย) แต่ข้อเสียก็คือ ความเพลินในการสูบจะมากขึ้นกว่าเดิม และ อาจทำให้สูบมากกว่าเดิมด้วย อย่างไรก็ดี ไม่มีคำแนะนำเกี่ยวกับการสูบว่า สูบวันนึงกี่คำ ถึงจะปลอดภัย เนื่องจากอยู่ที่ร่างกายของแต่ละบุคคล และ ความต้องการนิโคตินในแต่ละครั้ง

โดยสรุปแล้ว เลือกยี่ห้อไหนดี?

สำหรับ พอตใช้แล้วทิ้ง ยี่ห้อไหนดี เป็นบุหรี่ไฟฟ้าอีกประเภทที่ให้ความสะดวกมากขึ้น โดยไม่ต้องเติมน้ำยา และ แกะกล่องก็สามารถใช้ได้เลยทันที หากถามว่าจะเลือกซื้อแบรนด์ไหนดี ต้องบอกว่า แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน เช่น บางคนอาจชอบกลิ่น รสชาติ ของแบรนด์หนึ่ง แต่อาจชอบฟิลการสูบ ความแน่น ของอีกแบรนด์ก็เป็นได้ สิ่งที่เราสามารถทำได้ ก็คือ การแนะนำ ยี่ห้อ ให้ซื้อมาลองใช้ ในจำนวน Puffs หรือ จำนวนสูบที่น้อย เช่น 600 คำ และ ถ้าหากชอบ ก็สามารถเลือกที่สูงขึ้นได้ เป็น 10,000 คำ

สามารถตามลิงค์ด้านล่างนี้ไป เพื่อซื้อ แบบใช้แล้วทิ้งได้ที่ Thaipods.com 

พอตใช้แล้วทิ้ง ส่ง Grab, LINE MAN, Kerry, และขนส่ง รับประกันตลอดอายุการใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

เลือกยี่ห้อสูบแล้วทิ้งตามด้านล่างนี้

• INFY : https://thaipods.com/brand/infy/

• RELX : https://thaipods.com/brand/relx/

• Marbo : https://thaipods.com/brand/marbo/

• VMC600 : https://thaipods.com/brand/vmc600/

• VMC5000 : https://thaipods.com/brand/vmc5000/

หรือสั่งซื้อผ่าน LINE ได้ตามด้านล่างนี้