พอตไฟฟ้า Vaporesso XROS 4 การกลับมาของ Vape สุดยอดเยี่ยม

พอตไฟฟ้านั้นเป็นสินค้าที่นักสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่างชื่นชอบกันมากมาย ทั้งเรื่องการคุมไฟ การเปลี่ยนหัวพอต และตัวเครื่องที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผ้คนต่างหาแบรนด์ที่เป็นหนึ่งทางด้านพอตไฟฟ้า ซึ่งนั่นก็คือ Vaporesso และเมื่อไม่นานมานี้ทางแบรนด์ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่กับการออกสินค้าใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Xros 4 ซึ่งเป็น พอตไฟฟ้า เจน 4 ที่มาพร้อมกับลูกเล่นมากมายและการใช้งานที่แสนง่ายกว่าเดิม เดี๋ยววันนี้เรามาดูกัน

XROS 4 พอตไฟฟ้า ตัวใหม่จากค่าย Vaporesso

นับได้ว่าตั้งแต่ที่ทางแบรนด์ Vaporesso ได้ออกสินค้าเกี่ยวกับพอตไฟฟ้ามานั้น ได้มีซีรีย์ชื่อดังอย่าง Xros มาอย่างมากมาย ซึ่งในครั้งนี้ก็มาถึงกับตัวที่ 4 กับ Xros 4 โดยตัวพอตโฉมใหม่จากค่ายดังกล่าวได้มาพร้อมกับ เทคโนโลยีใหม่จากทางแบรนด์มากมาย ทั้ง Corex 2.0 ฟีเจอร์ A อย่างค่าความต้านทานที่ต่ำที่สุดถึง 0.4 และมีการปรับปรุงหัวพอตให้มีการสามารถเติมน้ำยาได้ถึง 3 มล. สามารถปรับกำลังไฟได้ถึง 3 ระดับ ขับเคลื่อนด้วย Pulse Mode Power Boosting ที่ใช้ชิป AXON รวมถึงปุ่มปรับแรงลมให้คุณได้สัมผัสกับฟิลในการสูบแบบ MTL กับ RDL ได้อย่างง่ายดาย

ตัวพอตได้มีการออกแบบด้วยการใช้ Aluminum Alloy ทั้งตัว ซึ่งจะสามาถซับแรงกระแทกและความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงฟิลในการจับถือ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยตัวเครื่องขนาด 120.80x24x14 มม. น้ำหนักเพียง 51.5 กรัม รวมถึงแบตเตอรี่ที่ทางตัวพอตให้มานั้นมากถึง 1000 mAh. และให้การชาร์จ USB-C ด้วยความรวดเร็วแบบ 2A มาอีกด้วย ซึ่งจะมีตัวเครื่องให้เลือกมากมายหลากหลายสีถึง 10 สีดังนี้

Black
Silver
Blue
Green
Lilac Purple
Sunset Neon
Pink Mint
Champagne Gold
Pastel Palette
Blood Mary

ที่สุดแห่งเทคโนโลยีของพอตไฟฟ้าอย่าง Corex 2.0

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจากทาง Vaporesso อย่าง Corex 2.0 ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติเข้มข้น ยอดเยี่ยม และยังสามารถรักษาอุปกรณ์ของคุณให้ได้มีการใช้งานที่ยืดยาวขึ้น ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญสำหรับเทคโนโลยีนี้คือ การทำให้ความร้อนแผ่กระจายไปยัง แผงของ Morph Coil ซึ่งจะทำให้ตัวพอตสามารถรีดทั้งควันและรสชาติได้อย่างเต็มที่อย่าง 100% โดยที่จะมีความสมูทและยังคงรสชาติของน้ำยาได้ยาวนานขึ้น และยังถนอมสำลีที่อยู่ภายในให้ยังใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย

ด้วยความที่ Xros 4 ได้ใช้เทคโนโลยีนี้ จึงทำให้สามารถทำหัวพอตที่สามารถรองรับกับค่าความต้านทานได้มากถึง 0.4 โอห์ม ซึ่งเป็นช่วงค่าโอห์มที่ต่ำและสามารถให้อรรถรสในการสูบแบบ MTL และรวมไปถึง RDL ได้

พอตไฟฟ้าที่มีปุ่มปรับกำลังไฟได้มากถึง 3 ระดับ

หากสังเกตุดีๆ ทางตรงกลางของตัวเครื่องจะมีปุ่มให้คุณสามารถกด เพื่อปรับระดับของกำลังไฟได้ ซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปไฟถึง 3 รูป ซึ่งคุณสามารถใช้ปุ่มดังกล่าวในการปรับกำลังไฟ เพียงแค่กดคลิก 2 ครั้งเท่านั้น และเมื่อคุณกดคลิก 4 ครั้งจะเป็นการ Lock โดยสามารถสังเกตุสัญลักษณ์รูปกุญแจที่อยู่ตรงกลางได้ทันที ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะไม่มีหน้าจอแสดงผลแบบอัจฉริยะแบบค่ายอื่น แต่ก็สามารถสังเกตุจากไฟที่เปลี่ยนไป เพื่อรับรูถึงปริมาณแบตเตอรี่ได้ โดยจะมีค่าสีดังนี้

สีเขียว : 100% – 70%
สีน้ำเงิน : 70% – 30%
สีแดง : 30% – 0%

ข้อดีและข้อเสียของ Xros 4

ข้อดี

Dual Activation Modes : Xros 4 สามารถใช้งานได้แบบทั้งการกดสูบหรือจะเป็นการสูบแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหมดการใช้ที่ตนเองถนัดได้อย่างเป็นส่วนตัว
การปรับแต่งขั้นสูง : ตัวพอตสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ทั้งการปรับแรงลม ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกแรงลมในการใช้งานแบบ MTL หรือ RDL ได้อย่างง่ายดาย
ความจุของหัวพอตที่มากขึ้น : เป็นอีกหนึ่งของความพิเศษสำหรับ Xros 4 ที่ได้ให้ความจุของหัวพอตเพิ่มจาก 2ml เป็น 3ml ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสูบได้อย่างยาวนาน และลดการเติมที่บ่อยเกินไปได้อีกด้วย
การชาร์จที่รวดเร็ว : พอตไฟฟ้าอย่าง Xros นั้นมาด้วยการชาร์จแบบ Type-C ที่ใช้ความสามารถแบบ 2A ทำให้คุณสามารถชาร์จอุปกรณ์ฺได้อย่างรวดเร็วเดพียง 30 นาทีเท่านั้น
คุณสมบัติทางด้านความปลอดภัยที่ครบครัน : Xros 4 เป็นอีกหนึ่งพอตไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยให้กับคุณได้อย่างครบถ้วน ทั้งการลดอาการไห้ม ป้องกันการกดปุ่มค้าง หรือสามารถล็อคเครื่องในขณะที่ไม่ได้ใช้

ข้อเสีย

แบตเตอรี่ไม่มากพอ : ถึงแม้ว่าเราจะเห็นว่าแบตเตอรี่ของทาง Xros 4 นั้นให้มามากถึง 1000 mAh. ก็ตาม แต่ว่ามันอาจจะไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานอย่างยาวนาน ทำให้อาจจะต้องชาร์จบ่อยครั้ง
การอัพเกรดที่ไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่าที่ควร : เราอาจจะสงสัยว่าเจ้า Xros 3 กับ 4 มันแตกต่างกันอย่างไร เพราะว่ามันแทบจะดึงตัวเก่ามาอัพเกรดและยังไม่ให้เทคโนโลยีที่ว้าวมากสำหรับ ผู้ที่มี Xros 3

สรุป

พอตไฟฟ้า Xros 4 จากค่าย Vaporesso นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวพอตใหม่ที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลอง Xros 3 หรือผู้ที่มีมัน เพราะว่าด้วยเทคโนโลยีจากค่ายที่ค่อนข้างดีกว่าตัวอื่นในตลาด ทั้ง Corex 2 และการชาร์จที่รวดเร็วเพียง 30 นาทีเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณมี Xros 3 แล้วอยากจะเปลี่ยนเป็น Xros 4 อาจจะต้องรอตัวโฉมใหม่กว่านี้หรือข้ามไปเล่นตัว Pro เพราะว่าตัวนี้แทบไม่แตกต่างกับเจ้าตัว 3 เลย เพียงแต่อาจจะใช้งานได้ง่ายและแก้สิ่งที่เป็นปัญหาในตัว 3 ได้อย่างหมดจด อย่างไรก็ตามเจ้าตัวใหม่ตัวนี้ ยังคงเป็นอีกหนึ่งพอตไฟฟ้าที่ดีที่สุดในตลาด และยังไว้ใจได้ สำหรับสินค้าจากแบรนด์ชื่อดังอย่าง Vaporesso

อ่านต่อ