น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

หนึ่งในคำถามที่นักสูบหลายคนสงสัย เมื่อทำการสั่งซื้อ Pods ที่มีน้ำยามาแล้ว ไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็แล้วแต่ หรือการซื้อน้ำยาเป็นขวดมาแบบ Salt Nic ไม่ว่าจะกี่ ml ก็ตาม ก็คือ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เก็บไว้ได้นานไหม ? แล้ววันหมดอายุจะต้องดูตรงไหน ที่จะไม่เสี่ยงต่อการสูบครั้งต่อไป

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มีส่วนประกอบอะไรบ้าง?

freebase-marbo thaipods น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เก็บไว้ได้นานไหม
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Marbo

น้ำยาหรือ E-liquid ส่วนใหญ่แล้ว ทำมาจากส่วนผสมหลักๆ 4 ตัวด้วยกันดังนี้

  • Propylene glycol 
  • Vegetable glycerin
  • รสชาติ และ กลิ่น ต่างๆ 
  • นิโคติน

สิ่งที่นักสูบไม่คุ้นหูคุ้นตากันเลย จะเป็นส่วนประกอบสองตัวบน ซึ่ง Propylene glycol (PG) คือสารที่ทำให้สีและกลิ่นเข้ากัน โดยมากแล้วจะใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเช่นสีต่างๆ รวมถึง ใช้ในเครื่องสำอางค์ และ moisturizers ต่างๆ นั่นเอง

มีส่วนผสมของพืช มากกว่า 80% 

สำหรับ Vegetable Glycerin หรือ กรีเซอรีนจากพืช เป็นสารที่ถูกสกัดมาจากน้ำมันพืช และ ไขมันของพืช แบบธรรมชาติ จะเป็นส่วนผสมหลักในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มากถึง 80% ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้หลายคนสบายใจ โดยมากแล้วจะสกัดมาจาก มะพร้าว หรือ น้ำมันปาล์ม  และมักใช้ในการให้ความหวานของอาหาร ทำยา และ ทำให้อาหารอยู่ได้นานขึ้น

ในเมื่อส่วนประกอบสำคัญทำจากพืช คำถามคือ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เก็บไว้ได้นานไหม?

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เก็บไว้ได้นานไหม? ต้องเก็บยังไงดี?

ข้อมูลจาก Innokin.com ผู้จัดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแบรนด์ดัง กล่าวไว้ว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จะมีอายุเพียง 1 ปี หลังจากที่ได้มีการผลิตออกมาแล้ว เนื่องจากว่า E-liquid จะเสื่อมสภาพตามกาลเวลา  แต่อย่างไรก็ดี ไม่ได้ หมายความจะจะใช้สูบไม่ได้ หรือเป็นอันตราย  ซึ่งน้ำยาอาจมีการเปลี่ยนสี หรือทำให้คุณภาพในการสูบไม่เหมือนเดิมเท่านั้น

ถ้าไม่อันตราย แล้วทำไมมันถึงเป็นเรื่องสำคัญ?

ความสำคัญของเรื่องนี้ เกี่ยวเนื่องกับ Reseller (ร้านหรือตัวแทนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า และ น้ำยา) และผู้ใช้งาน เนื่องจากการซื้อน้ำยา e-liquid ในปริมาณมากๆ หลายๆขวด โดยไม่ได้มีการใช้งานให้หมดภายใน 1 ปี อาจทำให้คุณภาพลดลงได้

ทำไมน้ำยาจากสีใส กลายเป็นสีน้ำตาล หล่ะ?

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เก็บไว้ได้นานไหม ยังคงใช้สูบได้ แค่เปลี่ยนสี
การเปลี่ยนสีของ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า E-liquid เกิดจากการที่น้ำยาเจอกับอากาศและทำปฎิกิริยากัน ซึ่งยังสามารถใช้งานได้อยู่ (อ้างอิง ladulcevapor.com)

หลายคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ อาจเคยซื้อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว และ สังเกตเห็นว่า น้ำยาจากสีใสๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม และเข้าใจว่า น้ำยาเสีย หรือ หมดอายุ ซึ่งจริงแล้ว ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้น

น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่กลายเป็นสีน้ำตาล ยังสามารถใช้งานได้อยู่ และไม่ได้เสีย หรือหมดอายุ ซึ่งสีที่เห็นเป็นการทำปฎิกิริยากันกับอากาศเท่านั้น

การเปลี่ยนสีของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จากสีใส เป็นสีน้ำตาล เป็นเพราะกระบวนการ oxidation หรือกล่าวง่ายๆคือ ตัวน้ำยาโดนอากาศ และเกิดปฎิกิริยากัน จนทำให้กลายเป็นสีน้ำตาลเข้มนั่นเอง ซึ่งตัวอย่างที่สามารถหาดูได้ คือการ หั่นแอปเปิ้ลสด แล้ววางทิ้งไว้ สีของเนื้อแอปเปิ้ล จากสีขาว จะกลายเป็นสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน

แล้วน้ำยาใน พอตใช้แล้วทิ้ง หรือ พอตไฟฟ้าหล่ะ?

สำหรับน้ำยาใน พอตใช้แล้วทิ้ง หรือ พอตไฟฟ้า แบบเปลี่ยนหัวได้ หากมีการเปลี่ยนสี เป็นสีน้ำตาลเข้ม ก็ยังคงเป็นหลักการเดียวกันกับสิ่งที่กล่าวไปแล้ว นั่นก็คือ น้ำยาในพอตได้เจอกับอากาศ และทำปฎิกิริยากัน ทำให้สีเปลี่ยน แต่ยังคงสามารถใช้สูบได้อยู่นั่นเอง

ถ้าไม่มีวันหมดอายุบนกล่อง หรือขวด จะบอกได้ยังไงว่าไม่ควรใช้แล้ว?

สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไป ที่เป็นแบบ free based และ salt nic นั้น บางกล่องไม่มีวันหมดอายุมาให้ ดังนั้นเราจึงมีเทคนิคการดู น้ำยาว่ายังสามารถนำกลับเอามาใช้ต่อได้หรือไม่ดังนี้

  1. กลิ่น – อาจเริ่มมีกลิ่นคาว หรือกลิ่นผิดปกติจากเดิมเมื่อสูบ หรือ ดมน้ำยา ซึ่งอาจเกิดจากค่า VG ในน้ำยาเสื่อมสภาพ โดยมาก เกิดจากการโดนความร้อนเป็นระยะเวลานานๆ
  2. ความหนืด – น้ำยาอาจสูญเสียความหนืดไป หากน้ำยาเริ่มหมดอายุ
  3. สี – อย่างที่บอกไปว่า น้ำยาอาจเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลได้ ซึ่งอาจเกิดจากการเปิดขวดทิ้งไว้นาน ปิดฝาไม่แน่น และอาจมีฝุ่นละอองลงไปได้ (ซึ่งไม่ควรใช้)
  4. กลิ่น รสชาติ – กลิ่นแต่ละกลิ่นที่ซื้อไป แน่นอนว่าผู้ซื้อรู้ดีอยู่แล้ว หากกลิ่นไม่เป็นไปตามที่โฆษณา อาจแปลได้ว่า น้ำยาเริ่มเสื่อมสภาพ

อย่างไรก็ดีคงต้องย้ำกันอีกครั้งว่า ไม่ได้มีอันตราย และสามารถใช้งานได้ แต่ไม่ได้คุณภาพเท่านั้นเอง ซึ่งยังคงแนะนำให้ซื้อน้ำยาขวดใหม่ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีเท่าเดิม


วิธีการเก็บรักษา น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

การเก็บรักษาน้ำยา E-liquid ทำได้สองกรณี คือ แบบระยะสั้น และ ระยะยาว ดังนี้

การเก็บระยะสั้น ไม่เกิน 2 เดือน (Short Term)

เพราะการใช้งานอาจมีการเติมน้ำยาทุกวัน การเก็บระยะสั้นจึงจำเป็น โดยการเก็บระยะสั้น จะไม่เกิน 2 เดือน ซึ่ง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำวิธีการเก็บตามนี้

  • เก็บไว้ในที่มืด มิดชิด แห้ง และ เย็น
  • โดยมากแนะนำให้เก็บไว้ในตู้มืดๆ
  • ให้เก็บใส่ห่อและให้โดนอากาศน้อยที่สุด (เช่นถุงสุญญากาศ)

เก็บรักษาระยะยาว นานกว่า 6 เดือน (Long Term)

คำแนะนำนี้ อาจเหมาะสำหรับร้านค้าที่ต้องมีการสต๊อกสินค้าประเภท น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีจำนวนมาก หรือ ผู้ที่ซื้อตุนไว้ เผื่อหมด

  • เก็บรักษาไว้ในขวด หรือภาชนะ ที่มีสีทึบ เพื่อป้องกันไม่ให้ โดนแสง
  • ควรเก็บรักษาไว้ในขวดแก้ว เนื่องจากจะไม่ทำปฎิกิริยากับแก้ว
  • หากต้องเก็บนานเกิน 6 เดือน ให้ใส่ช่องตู้เย็นไว้ และหากจะใช้งาน ควรนำออกมาตั้งด้านนอก ให้เจออุณหภูมิห้องเสียก่อน

ทั้งหมดนี้ ควรเก็บรักษาให้พ้นมือเด็ก และ สัตว์เลี้ยง เนื่องจากการใช้นั้นจะเป็นการสูบหรือ Vape และไม่ใช่ การใช้รับประทาน ซึ่งสัตว์เลี้ยง หรือ เด็กเล็กอาจมีอันตรายหากนำเข้าปากได้


บทสรุป

ไม่ว่าอะไรบนโลกนี้ ก็มีวันหมดอายุทั้งสิ้น E-liquid น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ก็เหมือนกัน ซึ่งวิธีการง่ายๆคือ หากมีรสชาติ หรือ กลิ่นผิดเพี้ยนไป ก็ไม่ควรนำมาใช้ต่อ หรือหากเริ่มมีความหนืดที่ไม่เหมือนเดิม หรือ ใดๆก็ตามที่ต่างจากเดิม ก็ควรหาซื้อใหม่

การเก็บรักษาน้ำยาให้ถูกต้อง ให้พ้นจากแสงแดด และอยู่ในอุณหภูมิปกติ เป็นเรื่องจำเป็น รวมถึงการหาที่เก็บให้มิดชิด ปลอดภัยจากการเอื้อมถึงของเด็กเล็ก และ สัตว์เลี้ยงด้วย

อ่านต่อ :