บุหรี่ไฟฟ้า กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ยิ่งในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาเป็นรูปแบบใหม่และหลายรสหลายกลิ่นมาก ๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนนิยมในการสูบ เพราะเป็นอะไรที่พกพาง่าย และที่สำคัญยังมีรสชาติและกลิ่นที่หอมไม่ทำให้คนรอบข้างต้อง มาทนกับกลิ่นเหม็น ๆ บุหรี่เดิม ๆ อีกต่อไปสำหรับคำถามที่ยังค้างคาใจกับคนที่ไม่สามารถอดกันสูบบุหรี่หรือว่าขาดนิโคตินที่เป็นส่วนผสมอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้าได้นั้นในการเดินทางบางครั้งการใช้เครื่องบินก็อยากจะรู้ว่าสามารถที่จะนำ บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้ไหม เรามาหาคำตอบกัน
บุหรี่ไฟฟ้า มีส่วนประกอบอะไรบ้าง?
ภายในตัวของบุหรี่ไฟฟ้า มักจะมีส่วนประกอบสำคัญสองประการหลักๆ ก็คือ ตัว พอตสำหรับใส่น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีคอยล์ทำความร้อนอยู่ และ ตัวแบตเตอรี่ หากเราไม่มองถึง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เรากำลังมองถึงตัวแบตเตอรี่ ที่หลายคนเป็นกังวลว่า จะสามารถนำขึ้น flight ได้หรือไม่?
บุหรี่ไฟฟ้า คือหนึ่งในประเภทของการสูบบุหรี่อีกชนิดหนึ่งที่จะใช้เป็นกลไฟฟ้านำมาก่อให้เกิดความร้อนและการ พ่นควันไอน้ำออกมาที่ประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ และกลิ่นที่นำมาแต่ง โดยจะไม่เหมือนกันเขาไม่ของควันบุหรี่เหมือนกับบุหรี่อื่น ๆ ทั่วไป โดยส่วนประกอบที่สำคัญของบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะมีเป็นแบบแบตเตอรี่ที่จะทำให้เกิดไอและความร้อนและใช้น้ำยาเป็นตัวผสมที่ทำให้มีกลิ่นออกมา
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นไหนๆ หรือจะมีควันมากน้อยเท่าใด การสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และ ยังผิดกฎหมายการบินจาก The Transportation Security Administration เนื่องจาก ควันจากบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่ไอน้ำ แต่เป็น Aerosol ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ที่แพ้
ใช้ในต่างประเทศ จะผิดกฎหมายหรือเปล่านะ? จะโดนจับมั้ย?
อ้างอิง Wikipedia ด้วยข้อมูลล่าสุด พบว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเช่น บราซิล, สิงคโปร์, อุรุกวัย, อินเดีย เป็นประเทศที่ห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง (banned) ซึ่งมีอีกหลากหลายประเทศที่ห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้า หรือจำหน่าย และควรตรวจสอบกับหน่วยงานของประเทศนั้นๆ และหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนำเข้า เนื่องจากอาจเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับบางประเทศ และอาจได้รับความเดือดร้อนจากการควบคุมตัวได้
โหลดในกระเป๋าเดินทาง Check-in ได้มั้ย?
บุหรี่ไฟฟ้า ถ้าหากเทียบกับบุหรี่ธรรมดาหลาย ๆ คนก็อาจจะสงสัยแน่นอนว่ามีความปลอดภัยสำหรับการพกขึ้นเครื่องหรือเปล่า? หรือสูบบนเครื่องได้มั้ย? ต้องบอกว่า การนำของขึ้นเครื่องบิน ทางสายการบินต่างๆ มักมี อ้างอิง Chubb Travel Insurance สิ่งต่างๆดังนี้ ที่ ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องได้เช่น
- เครื่องดื่ม ของเหลว และแม้แต่ สเปรย์แอลกอฮอล์
- Power Bank ห้ามใช้ check-in
- อาวุธ มีด ของมีคม
- สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์
- วัตถุระเบิด เชื้อเพลิง วัตถุไวไฟ
- อาหารที่มีกลิ่นแรง ที่อาจรบกวนผู้อื่น เช่นทุเรียน ปลาร้าเป็นต้น
- สัตว์มีพิษ สัตว์ดุร้าย
- สารอันตราย หรือ สารเสพติด
- แม่เหล็ก น้ำแข็งแห้ง วัตถุแตกหักง่าย
เมื่อดูกติกาการพกของติดตัวบนเครื่องบิน บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นหนึ่งในเครื่อง Power Bank ขนาดเล็ก ที่ห้าม Check-in พร้อมกระเป๋าใบใหญ่ โหลดใต้ท้องเครื่อง แต่อันที่จริงแล้ว มันสามารถพกขึ้นเครื่องบินได้ ไม่ผิดกฎหมาย ซึ่ง อย่างเดียวที่ห้ามทำก็คือ ห้ามสูบบนเครื่องบินเท่านั้น
จริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเทียบกันจริง ๆ แล้วสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความอันตรายน้อยกว่า บุหรี่แบบธรรมดา เนื่องจากว่าบุหรี่ธรรมดาจะมีนิโคตินและยังมีสารชนิดอื่น ๆ มากถึง 7 พันกว่าชนิด ซึ่งสารทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งได้แต่ในส่วนของบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะไม่มีสารอันตรายเยอะ เพราะจะมีเพียงแค่เป็นสารระเหยและมีโคติน เพียงแค่ 3% หรือว่าบางรุ่นอาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ
ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีวิจัยออกมาแน่ชัดว่าบุหรี่ธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายมากแค่ไหน แต่ถ้าดูตามความเป็นจริงแล้วบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งกว่านั่นเอง ถึงอย่างไรก็ตามบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีหลายรสหลายกลิ่นที่เราสามารถสรุปได้ไม่ทำให้คนอื่นต้องมารับควันกลิ่นเหม็นจากการสูบของเราอย่างแน่นอน
ไขข้อสงสัย ถาม-ตอบ บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้ไหม ปี 2566
คำตอบคือ
- สามารถพกติดตัวขึ้นไปในเครื่องบินหรือทำการโหลดแต่ไม่ควรพกขวดน้ำยาบุหรี่ที่มากกว่า 100 ML ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยกับผู้โดยสารท่านอื่น ๆ และตัวของคุณเอง
- ถึงแม้จะพกพาขึ้นไปได้แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ต้องสอบถามกับทางสายการบินอีกครั้ง เพราะแต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป
- สายการบินอาจจะให้เรานำติดตัวขึ้นไปแต่ไม่ให้โหลดหรือบางสายการบินจะต้องโหลดเพียงเท่านั้นหรือพกติดตัวได้ แต่ก็ไม่ควรที่จะพกน้ำยาบุหรี่ไป เพราะฉะนั้นจึงอยากแนะนำให้เลือกใช้เป็นบุหรี่ที่ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะไม่จำเป็นต้องเติมกลิ่นหรือว่าพวกขวดน้ำยาที่ยุ่งยากเป็นการใช้แล้วสามารถทิ้งได้
ต้องเทน้ำยาทิ้ง ก่อนขึ้นเครื่องหรือเปล่า?
เพราะหลายคนรู้ว่าการนำของเหลวขึ้นเครื่อง ได้ไม่เกิน 100ml จึงมีความกังวลว่า อาจไม่สามารถเอาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรือ หัวพอตที่มีน้ำยาขึ้นเครื่องได้ และกลัวโดนเปิดกระเป๋าและทิ้ง
ซึ่งจริงๆแล้ว น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามักจะเป็นขวดไม่เกิน 100ml อยู่แล้ว และเทคนิคสำคัญคือ ควรแยก หัวพอตที่มีน้ำยา ออกจากตัวเครื่อง (แต่อย่างไรก็ตาม พอตใช้แล้วทิ้ง จะไม่สามารถแยกได้) ก่อนการ Scan วัตถุต้องสงสัย โดยสรุปคือ ไม่จำเป็นต้องทิ้งน้ำยาก่อนขึ้นเครื่อง
Vape บนเครื่อง โดนจับได้จะเป็นอย่างไร?
หลากหลายข่าวที่เกิดขึ้นในรอบปี โดยเฉพาะช่วงหลังโควิดที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ามีการรายงานผู้โดยสารแอบสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน โดยเฉพาะในห้องน้ำ ซึ่งเคยมีเคสออกมาดังนี้
-
สายการบิน Ryanair ปรับผู้โดยสารแอบสูบ เป็นจำนวนเงิน 15,000 บาท (irishexaminer.com)
-
Qatar Airways เคยจับกุมตัวผู้แอบสูบบุหรี่ไฟฟ้า และจับขังคุกมาแล้ว (traveldailymedia.com)
-
ผู้โดยสาร Republic Airways ถูกปรับ ราวๆ 600,000 บาท ข้อหา สูบบุหรี่ไฟฟ้า ดื่มแอลกอฮอล์ และ ไม่สวมหน้ากากอนามัย (clickorlando.com)
-
สจ๊วต สายการบิน Air New Zealand ถูกปรับ 86,000 บาท หลังผู้โดยสารร้องเรียนว่า พนักงานให้บริการบนเครื่องบินสูบบุหรี่ไฟฟ้า (nzherald.co.nz)
เหตุผลที่ห้ามสูบบนเครื่องบิน – ทำไมทำไม่ได้?
ถ้าเป็นบุหรี่จริงก็พอเข้าใจได้ แต่นี่คือบุหรี่ไฟฟ้าที่มีความอันตรายน้อยกว่าหลายเท่า ซึ่งเมื่อเราตรวจสอบเหตุผลก็พบว่า มันเสี่ยงต่อการระเบิดนั่นเอง
ข้อมูลจาก FAA หรือ Federal Aviation Administration สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ ที่มีแบตเตอรี่ Lithium อาจทำให้เกิดการระเบิดและทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างบินได้ ดังนั้น การเก็บบุหรี่ไฟฟ้า หรือ Vape Device ต้องเก็บไว้ในกระเป๋าติดตัวเท่านั้น ซึ่งการฝ่าฝืน เท่ากับการละเมิดคำสั่งของรัฐบาลเลยทีเดียว
ข้อสรุป
เพราะเราเรียนรู้มาแล้วในอดีต รู้หรือไม่ว่า ทุกคนเคยได้รับการอนุญาตให้สูบบุหรี่บนเครื่องบินได้ และถูกระงับตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา แต่สำหรับบุหรี่ไฟฟ้า ก็เป็นหนึ่งในไอเทมที่มีนิโคติน และมีสารอันตรายเช่นเดียวกัน รวมถึงมีแบตเตอรี่ที่อาจทำให้เกิดการระเบิดได้ โดยสรุปทั้งหมดนี้แล้ว สามารถบอกได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่ไม่สามารถสูบได้ นั่นเอง
อ่านต่อ: