ข่าว

หลากหลายรัฐบาลย่อมมีความคิดแตกต่างกันออกไป และไอเดียนี้มาจากรัฐบาลประเทศอังกฤษ ที่ต้องการให้สิงห์อมควัน คนสูบบุหรี่จำนวน 1 ล้านคน ให้เลิกบุหรี่จริง โดยการแจก บุหรี่ไฟฟ้าให้กับแต่ละคน เพื่อเป็นตัวช่วยให้เลิกบุหรี่ให้ได้

แคมเปญ Swap to Stop

ข่าวจาก The Guardian กล่าวว่า รัฐบาลประเทศอังกฤษ มีความประสงค์ที่จะให้ประชาชนในประเทศเลิกบุหรี่จริง จึงมีการออกแคมเปญ “Swap to Stop” (แปลว่า เปลี่ยนเพื่อหยุด) ซึ่งในแคมเปญนี้จะมีการแจก Vaper Kits หรือ บุหรี่ไฟฟ้าให้กับประชาชนฟรี เพื่อให้เกิด “Smoke Free Zone”

สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ทางรัฐฯ จะมีการแจกเงินมากถึง 400 ปอนด์เสตอริง (ราวๆ 17,000 บาทไทย) เพื่อให้หยุดสูบบุหรี่ รวมถึงจัดให้มีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในการส่งเสริมการเลิกบุหรี่ ซึ่งแคมเปญทั้งหมดนี้ เพื่อการต่อสู้การขายบุหรี่ให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี อย่างผิดกฎหมาย

จากสถิติในประเทศอังกฤษพบว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กอายุ 11-17 ปี เพิ่มขึ้น 3.3% ในปี 2021 ที่ผ่านมา และ เพิ่มสูงขึ้นถึง 7% ในปี 2022

ส่งเสริมการเลิกบุหรี่ จากแคมเปญ Smoke Free ในสถานที่สาธารณะ

ในปี 2022 ที่ผ่านมา มีการรณรงค์ ให้มีการ BAN การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะในประเทศอังกฤษอย่างจริงจัง เช่น เบียร์การ์เด้น คาเฟ่ ชายหาด และที่อื่นๆ และสิ่งที่ทางภาครัฐอยากเห็นคือ การที่คนอังกฤษใช้ ยาสูบ น้อยลง

ต่างจากรัฐบาลไทย ที่มีโรงงานยาสูบ ซึ่งพยายามทำรายได้ให้มากขึ้นในแต่ละปี ในขณะที่ ไม่มีการอนุญาตให้ขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นของผิดกฎหมาย

คำถามคือ ใช้ บุหรี่ไฟฟ้า แล้วจะเลิกบุหรี่จริงได้หรือ?

หากไม่มองถึงการ ใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเลิกสูบไปเลยถาวร การาใช้บุหรี่ไฟฟ้า หรือ E-cig สามารถทำให้นักสูบเลิกบุหรี่จริงได้อย่างแน่นอน

ข้อมูลจาก NHS.UK มีการทำวิจัยและเก็บสถิติในปี 2021 สำหรับผู้ใช้ บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่จริง ปรากฎว่า ได้ผลเกินคาด โดยผลลัพธ์ที่ได้ ทำให้ผู้สูบบุหรี่จริง เลิกสูบบุหรี่ ได้มากถึง 2 เท่า

โดยในการเก็บสถิติกล่าวไว้ว่า ทำให้ผู้สูบบุหรี่จริง ลดความอยากบุหรี่ แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ดีที่สุดคือการ เลิกสูบทั้งบุหรี่จริง และ E-cigarette ไปเลย จะทำให้ร่างกายดีกว่ามาก และใน NHS ยังมีการแนะนำ วิธีการเลือกบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม


อย่างไรก็ดีการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ได้ทำให้เลิกติดนิโคตินได้ เนื่องจากในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ที่ทำให้ร่างกายอยากและติดได้มากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การใช้ บุหรี่ไฟฟ้ายังคงเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับคนในปัจจุบันที่ต้องการเลิกบุหรี่อยู่ดี