สำหรับคนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำอยู่แล้ว คงรู้ว่า น้ำยา E-juice ที่ได้มาแต่ละครั้งนั้น บางครั้งสีไม่เหมือนกัน และทำไมตั้งไว้นานๆ แล้วสีมันถึงเปลี่ยน? และอาจสงสัยว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่สี กันนะ ? วันนี้เรามาหาคำตอบในเรื่องนี้กัน
ซื้อมาสีใส ทำไมสีเปลี่ยน? น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่สี กันแน่?
เคยสงสัยกันมั้ยว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ซื้อมาในแต่ละครั้ง ทำไมสีไม่เหมือนกันเลยซักครั้ง? บ้างก็ว่า เป็นของปลอม บ้างก็ว่า เก็บรักษาน้ำยาไม่ดี ซึ่งโดยมากแล้ว เราจะตั้งคำถามเหล่านี้เอาไว้ในใจ แต่เมื่อสูบไปแล้ว ไม่เป็นไรก็ลืมข้อสงสัยเรื่องนี้ไป แต่จริงๆแล้ว มันเป็นที่อะไรกันนะ?
- น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า E-juice ดูเหมือนเข้มข้นขึ้น พร้อมกับสีที่เปลี่ยนไปเป็น สีน้ำตาล
- รสชาติ กลิ่นเปลี่ยนไป หลังจากเติมได้ซักระยะ
- บางคนชอบรสชาติ และ ฟิล หลังจากที่เปิดขวดใช้ทันที แต่พอหลังจากนั้นอาจไม่ชอบ เพราะกลิ่นเปลี่ยน ฟิลลิ่งเปลี่ยน
เรื่องของกลิ่น รสชาติ เราอาจไม่สามารถแนะนำได้ตรงใจหมดทุกคน แต่เรื่องของความกังวลอาจมีเท่ากัน ดังนั้น เราจะหยิบยก วิทยาศาสตร์ ขึ้นมาอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงของสีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า E-juice ให้รู้กัน
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เปลี่ยนเป็นสีเข้ม? หรือ สีน้ำตาล?
หากถามว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่สี เราอาจไม่สามารถตอบได้ชัดเจน เนื่องจาก สีของมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับ วิธีการเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ของแต่ละคน ซึ่งการผลิตน้ำยาประเภทนี้ มักจะมีป้ายบอก DOM หรือ Date of Manufacturer ที่บอกถึงวันผลิต
ยิ่งมี ปริมาณ Nicotine ที่สูง สีจะเข้มกว่าขวดที่มี ปริมาณนิโคตินต่ำ
โดยการผลิตออกมาจากโรงงานครั้งแรกนั้น น้ำยาจะมีลักษณะสีใส โดยอาจมีสีเป็นสีเหลืองนิดหน่อยเท่านั้น และเมื่อเวลาผ่านไป น้ำยาจะเปลี่ยนสีจากเหลืองอ่อน เป็น ส้มอ่อน และ กลายเป็นสีส้มเข้ม หรือ น้ำตาลนั่นเอง โดยที่ หากปริมาณนิโคตินยิ่งสูง สีจะยิ่งเข้มขึ้นกว่าเดิม เหตุนี้เป็นเพราะอะไร?
อะไรทำให้มันเปลี่ยนสี?
แอปเปิ้ล เวลาหั่นทิ้งไว้นานๆ จะเปลี่ยนสีผิวเป็นสีคล้ำ นั่นคือปฎิกิริยา Oxidation
สิ่งที่ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนสี ไม่ใช่อะไรอื่น นอกเหนือจากการทำปฎิกิริยา ที่เรียกว่า Oxidation นั่นก็คือ การที่สารเคมีที่ใช้ในการผลิตน้ำยา สัมผัสกับอากาศ หรือ สารอื่นๆ โดยหลายแห่งมีการยกตัวอย่าง การเกิดปฎิกิริยากับอากาศ ของสาร เช่น เมื่อเราหั่น apple เป็นชิ้นๆ และทิ้งไว้ซักพัก เมื่อผิวของแอปเปิ้ล สัมผัสกับอากาศ จะเปลี่ยนสีผิวเป็นสีน้ำตาลหรือสีคล้ำ
เมื่อน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าถูกจัดเก็บไว้ในห้อง ที่อุณหภูมิห้อง จะมีการทำปฎิกิริยากับแสง และอากาศ (จึงมีการแนะนำให้เก็บในที่พ้นแสง) ทำให้น้ำยาเปลี่ยนสีเป็นสีเข้มมากขึ้น และเมื่อเก็บไว้นานๆ จะทำให้ น้ำยามีความเข้มข้นมากขึ้น และ ทำให้สูบแล้วรู้สึกแน่นกว่าเดิม เนื่องจากมีความเข้มข้นสูงขึ้นนั่นเอง
แล้วทำไมรู้สึกว่า เหนียว หนืด กว่าเดิม?
หลายคนอาจรู้สึกว่า เวลาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว มันหนืดกว่าเดิม หรือ เข้มข้นกว่าเดิมมาก อันที่จริงแล้ว จะสีใส หรือ สีเข้ม ความเข้มข้น ความเหนียว เท่ากันนั่นแหละ เพราะไม่มีสารที่ทำปฎิกิริยาให้น้ำยามีความเข้มข้นกว่าเดิม
แต่ที่เห็นว่ามีความหนืดมากกว่าเดิมนั้น เป็นเพราะว่า มีส่วนผสมของกลีเซอรีน ที่ทำมาจากผัก เมื่อสารเหล่านี้ เจอเข้ากับความชื้น และ อากาศ จะทำให้เกิดความหนืดที่มากขึ้น ซึ่งทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างเมื่อใช้งานในการเทลงไปใน Pods ต่างๆ ที่ใช้งาน นั่นเอง
บางคนชอบฟิลน้ำยาหนืด บางคนชอบแบบไม่หนืดมาก
หลายคนที่สอบถามมา ชอบน้ำยาที่ถูกเปิดไว้ระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากความหนืด และฟิลลิ่งในการสูบกำลังพอดี และมีสีน้ำตาลเข้มมากกว่า (โดยการที่เปลี่ยนสี ในต่างประเทศเรียกว่า steeping) แต่สำหรับบางคน ไม่ชอบแบบนั้น กลับชอบที่เปิดใหม่มากกว่า (แอดมินก็ชอบที่เปิดใหม่มากกว่า เพราะรู้สึกฟิลดีกว่า)
และบางคนที่ชอบกลิ่นขนม พวกลูกอม วนิลลา จะชอบที่จะเปิดขวดทิ้งไว้ (เปิดครั้งแรก และปิดฝาทิ้งไว้) เป็นสัปดาห์ก่อนการใช้งานจริง เนื่องจากว่ากันว่า กลิ่นจะชัดมากกว่าเดิม
แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไป ในเรื่องของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนสี และไม่ต้องสงสัยว่า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีกี่สี กันแน่? เนื่องจากมันมีสีเดียวตอนมา แต่เมื่อเปิดแล้ว สีจะค่อยๆเปลี่ยนไปนั่นเอง
เลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ของแท้ ไม่ต้องกังวลได้ที่นี่ : https://thaipods.com/category/e-liquid/
อ่านต่อ :
- หัวพอต relx infinity แบบเติม มีขายที่ไหนบ้าง? refill ได้จริงหรือไม่?
- น้ำยากลิ่นมิ้นท์ (Mint Flavor) อาจเป็นรสชาติที่อันตรายที่สุด