ความรู้

The History of Vaping12

ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาบุหรี่ไฟฟ้าได้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างมาก จนกลายเป็นนวัตกรรมที่คนทั้งโลกได้ใช้ประโยชน์จากมัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่เคยเห็นคนใช้บุหรี่ไฟฟ้า เพราะไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็จะต้องมีคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างแน่นอน เนื่องจากมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่จริงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพ และเรื่องกลิ่นที่รบกวนคนรอบข้าง รวมไปถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บุหรี่ไฟฟ้าเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาของบุหรี่ธรรมดาในทุกด้านอย่างแท้จริง แต่คุณคงจะไม่รู้มาก่อนเลยว่า จริงๆ แล้วบุหรี่ไฟฟ้าตัวแรกนั้นเข้าสู่ตลาดตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และนี่คือต้นกำเนิดของบุหรี่ไฟฟ้า นวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนทั่วโลก

เกษตร4

การสูบไอมีมานานแค่ไหนแล้ว?

แรงผลักดันที่ทำให้เกิดการสูบไอขึ้นมาจากความต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า และสร้างการรบกวนต่อคนรอบข้างน้อยการสูบบุหรี่ เนื่องจากผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่เริ่มปรากฏชัดเจนต่อผู้คนในช่วงทศวรรษที่ 50 และ 60 ไม่ต้องพูดถึงควันบุหรี่ที่เหม็น และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ไม่สูบอยู่เสมอ นักประดิษฐ์จึงเริ่มหันมาพิจารณาทางเลือกอื่นที่เป็นไปได้ โดยการสูบไอน้ำเป็นการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ความร้อนกับของเหลว เพื่อให้ของเลวระเหยเป็นไอ เพื่อใช้สูบ โดยผู้ที่ริเริ่มแนวคิดนี้คือ Joseph Robinson เขาได้ยื่นสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ที่เขาเรียกว่า ‘Mechanical Butane Ignition Vaporizer’ และสิทธิบัตรของเขาได้รับการอนุมัติในอีก 3 ปีต่อมา แต่โรบินสันไม่เคยนำอุปกรณ์ของเขาออกสู่ตลาด ทำให้แนวคิดนี้ถูกปิดเป็นความลับมานานหลายทศวรรษ

The History of Vaping3

บุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร?

บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่เราได้ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1990 เมื่อเภสัชกรชาวจีนชื่อ Hon Lik ได้ค้นพบทางเลือกอื่นแทนการสูบบุหรี่จริง โดย Hon Lik ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่ทันสมัย และใช้งานได้จริงเป็นคนแรก โดยใช้แบตเตอรี่ พ็อด และอะตอมไมเซอร์ เพื่อทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าระเหยกลายเป็นไอให้เราได้สูบกัน โดยบุหรี่ไฟฟ้าของ Hon Lik สร้างสำเร็จในปี 2003 และถูกวางจำหน่ายในประเทศจีน และยุโรปในเดือนเมษายน ปี 2006

ประวัติโดยย่อของบุหรี่ไฟฟ้า

ปี 1930

Joseph Robinson คิดค้นแนวคิดของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ในปี 1927 และได้รับการอนุมัติในปี 1930 ซึ่งมันแตกต่างจากผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน อุปกรณ์ของ Robinson นั้นมีไว้สำหรับการใช้งานทางการแพทย์เป็นหลัก เขาต้องการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถระเหยสมุนไพรเพื่อใช้เป็นยาได้ อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ของ Joseph Robinson ไม่เคยมีขายในเชิงพาณิชย์ แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นของบุหรี่ไฟฟ้าที่เราใช้กันในปัจจุบัน

ปี 1960

นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน Herbert A. Gilbert ได้สร้างอุปกรณ์สูบนิโคตินที่ปราศจากยาสูบเครื่องแรกที่มีลักษณะคล้ายกับบุหรี่ไฟฟ้าสมัยใหม่ที่เรารู้จักในปัจจุบัน มันถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1963 และได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรในปี 1965 แต่อุปกรณ์ของเขาไม่ประสบความสำเร็จในการเชิงพาณิชย์ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะบริษัทยาสูบขนาดใหญ่ไม่ชอบแนวคิดเรื่องการสูบบุหรี่โดยไม่ใช้ยาสูบของเขา และแนวคิดนี้ยังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับคนทั่วไป

ปี 1979

ในปี 1979 วิศวกร Phil Ray ได้ร่วมมือกับแพทย์ของเขา Norman Jacobson และได้พัฒนาบุหรี่ไฟฟ้าตัวแรก และวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์  ทีมของพวกเขาได้ลงทุนวิจัยเกี่ยวกับการส่งนิโคติน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับบุหรี่ไฟฟ้าของพวกเขา แต่มันสามารถสร้างกระแสได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าของพวกเขา ยังคงไม่ประสบความสำเร็จ

ปี 2003

ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น บุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นในปี 2003 โดย Hon Lik บุหรี่ไฟฟ้าของเขาเป็นบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน ประกอบด้วยแบตเตอรี่อิเล็กทรอนิกส์ พ็อด และอะตอมไมเซอร์ บุหรี่ไฟฟ้าของ Hon Lik ออกสู่ตลาด และประสบความสำเร็จไปทั่วโลกในทันที เขาก่อตั้งบริษัท Ruyan ซึ่งเริ่มจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าไปทั่วเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ประมาณปี 2549

ปี 2006-2008

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา และยุโรปตั้งแต่ปี 2006 – 2008 ในขณะที่คนทั่วโลกกำลังต้องการทางเลือกที่ดีกว่าการสูบบุหรี่จริง แต่อย่างไรก็ตามบุหรี่ไฟฟ้าได้รับข้อโต้แย้งมากมาย หลายประเทศระงับการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีปริมาณนิโคตินสูง โดยตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่ห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากขาดข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น อีกทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังได้ออกคำสั่งให้ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าห้ามกล่าวอ้างบนฉลากว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาของ Public Health England ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่จริงถึง 95%

The History of Vaping4

อนาคตของบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร?

จากการศึกษาของ Euromonitor International พบว่า ในช่วงปี 2000 มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าประมาณ 68 ล้านคนทั่วโลก แต่ตัวเลือกบุหรี่ไฟฟ้าในช่วงเวลานั้นยังมีจำกัดมากๆ ต่างจากทุกวันนี้ที่มีบุหรี่ไฟฟ้าให้เลือกใช้หลากหลายมากๆ และคุณยังสามารถสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบได้ง่ายๆ จากทางออนไลน์ โดยในปัจจุบันการสูบบุหรี่เป็นที่ยอมรับน้อยลงอย่างมากจากสังคมทั่วโลก และอนาคตของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ดูสดใสขึ้น ผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้าใจเทคโนโลยี และฟีเจอร์ทั้งหมดที่บุหรี่ไฟฟ้านำเสนอ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าดูจะเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก มีผู้ผลิตรายใหญ่มากมายเริ่มคิดค้นผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าสู่ตลาดนี้เป็นจำนวนมาก เราจึงจะได้เห็นบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมาทุกปี รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เพื่อให้สะดวกต่อการพกพา และบริษัทผู้ผลิตจะต้องเปิดเผยส่วนผสมในน้ำยา และวิธีการทำงานของบุหรี่ไฟฟ้าของวพวกเขาให้มากขึ้นอีก เพราะผู้คนเริ่มที่จะศึกษา และให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขากำลังสูบมากขึ้น

สรุป

อย่างที่เราได้อ่านกันมาประวัติศาสตร์ของบุหรี่ไฟฟ้านั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของการลองผิดลองถูกมากมาย และต้องผ่านเวลาหลายทศวรรษก่อนที่จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ จนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่เราสูบกันอยู่ในปัจจุบัน และธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ายังดูเหมือนว่าจะเติบโตมากขึ้นไปอีกในอนาคต ด้วยการที่ผู้คนสามารถหาความรู้มากมายผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้คนทั้งโลกเริ่มตระหนักได้ถึงอันตรายในการสูบบุหรี่จริง และเห็นประโยชน์จากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างแท้จริง

อ่านต่อ: