ข่าว

licensed4

ในปัจจุบันเกิดข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยการบุหรี่มวนจริงหรือ? ทำไมยังมีคนที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ทั้งที่เปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่งานวิจัย และหลักฐานมากมายก็ได้พิสูจน์แล้วเช่นกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงถึง 95% แต่บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังถูกโจมตีด้วยเรื่องอื่นๆ อีกอยู่ดี จนมีการเสนอว่าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าควรจะต้องมีใบอนุญาติหรือไม่ เพื่อควบคุมร้านค้าเหล่านี้ให้ทำตามกฎข้อบังคับตามกฎหมาย

licensed1

ทำไมต้องมีใบอนุญาติเพื่อควบคุมร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าด้วยละ?

ปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าในทุกวันนี้มี 2 ประการ

ประการที่ 1

ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าบางร้านขายอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือของปลอมนั่นเอง โดยบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานส่วนใหญ่มักจะมีความจุมากกว่าบุหรีไ่ฟฟ้าทั่วไป และมีระดับนิโคตินที่สูงกว่า แต่ปัญหาจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของความจุ และระดับนิโคติน แต่เป็นตัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่คุณภาพต่ำ และไม่ผ่านการทดสอบมาตรฐานต่างๆ ซึ่งน้ำยาเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อผู้สูบได้

ประการที่ 2

การขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชนที่อายุไม่ 18 ปี โดยในปัจจุบันมีเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่เยาวชนเหล่านี้ส่วนใหญ่สูบบุหรี่มาก่อนอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน เพราะถูกดึงดูดด้วยรสชาติ สูบได้ง่าย สะดวก และปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่จริง แต่อย่างไรก็ตามการส่งเสริมให้เยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอยู่

licensed2

 

บุหรี่ไฟฟ้าทำให้จำนวนเยาวชนที่สูบบุหรี่ลดลง

ถึงแม้ว่าการขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 จะเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่ก็เป็นเรื่องที่เถียงไม่ได้เลยว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเท่ากับการหยุดสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่จริงถึง 95%  รวมถึงข้อมูลจาก ASH กล่าวว่า เยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่สูบบุหรี่จริงเป็นประจำอยู่แล้ว การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนที่เพิ่มขึ้น จึงมาพร้อมกับอัตราการสูบบุหรี่จริงของเยาวชนที่ลดลง

การจำกัดอายุในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ช่วยอะไร กลับจะยิ่งทำให้เยาวชนสูบบุหรี่จริงมากขึ้น

นี่คือเรื่องจริงที่เราทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจำกัดอายุไม่เคยทำให้เยาวชนเลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลิกเสพยาเสพติดด้วย มันแค่ทำให้เยาวชนเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ยากขึ้นเท่านั้น เพราะตราบใดที่ยังมีร้านค้าผิดกฎหมายที่ยังแอบขายให้กับเยาวชนอยู่ การจำกัดอายุก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี ปัญหาเหล่านี้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีร้านค้าที่ไม่ทำตามกฎระเบียบอยู่ทุกที่ จากสารคดีของ BBC Xray ระบุว่า ร้านค้าที่ไม่ปฎิบัตตามกฎส่วนใหญ่คือร้านขายของชำ

 

“ร้านค้าเหล่านี้กำลังทำลายความพยายามหลายปี ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ที่สนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า”

 

อ้างอิงจาก : https://www.ecigarettedirect.co.uk

licensed3

การแอบขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ทำให้เกิดการแบนรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้า

แน่นอนว่าสิ่งที่ดึงดูดนักสูบอายุน้อยให้หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็คือรสชาติที่ดีกว่าบุหรี่จริง ซึ่งช่วยให้เด็กเหล้านี้เลิกสูบบุหรี่จริง และไม่อยากจะกลับไปสูบมันอีกเลย แต่ปัญหาในการที่ร้านค้าแอบขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 กลับเป็นการแบนรสชาติของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนั่นไม่ได้แก้ปัญหาอะไร แถมส่งผลถึงผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ใช่เยาวชนอีกด้วย รวมถึงอาจทำให้เยาวชนกลับไปสูบบุหรี่มากขึ้นอีกต่างหาก

licensed4

ควรมีการออกใบอนุญาติในการขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับร้านค้าหรือไม่?

แนวคิดที่ร้านค้าจะขายบุหรี่ไฟฟ้าได้จะต้องมีใบอนุญาติ ถูกเสนอโดย UKVIX หรือ สมาคมอุสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าอังกฤษ โดยเสนอให้ร้านค้าที่ต้องการขายบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับหน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ซึ่งจะนำเงินเหล่านี้ไปใช้ในการบังคับใช้กฎหมายกับร้านค้าที่ไม่ได้รับอนุญาติ แต่แนวคิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ระหว่างฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้าน

ข้อโต้แย้งของฝ่ายสนับสนุน

  1. ปัจจุบันหน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายนี้ขาดทั้งเงินทุน และบุคลากร การเก็บค่าธรรมเนียมจะเป็นการเพิ่มเงินทุนให้กับหน่วยงานเหล่านี้ให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมมากขึ้น
  2. ช่วยให้การตรวจสอบร้านค้าที่ทำผิดกฎหมายง่ายขึ้น เพราะเมื่อออกกฎที่ต้องมีใบอนุญาติถึงจะขายได้ ร้านค้าที่มีคุณภาพอยู่แล้ว จะยอมเสียค่าธรรมเนียมในการขอใบอนุญาติอย่างแน่นอน นั่นทำให้หน่วยงานสามารถตรวจสอบร้านค้าเหล่านี้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหา และหากร้านค้าที่ได้รับใบอนุญาติมีการแอบขาบแบบผิดกฎหมาย ก็สามารถตรวจสอบ เพื่อเพิกถอนใบอนุญาติได้ง่ายเช่นกัน ในขณะที่ร้านค้าใดที่ไม่มีใบอนุญาติ ก็คือร้านที่ขายผิดกฎหมายนั่นเอง
  3. เป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้ทำตามกฎระเบียบ การขายผิดกฎหมาย จะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาติ แค่นี้ก็เป็นบทลงโทษที่จะช่วยให้ร้านค้าเหล่านี้ ไม่อยากที่จะขายผิดกฎหมาย เพราะมันจะส่งผลกระทบกับธุรกิจ แต่สำหรับร้านที่ไม่มีใบอนุญาติอาจจะไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการขายโดยไม่มีใบอนุญาติ จะต้องเสียค่าปรับในอัตราที่สูงเพิ่มด้วย

ข้อโต้แย้งของฝ่ายต่อต้าน

  1. ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มต้นทุนในการขาย ร้านค้าเล็กๆ จะทำธุรกิจได้ยากขึ้น เพราะการที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเท่ากับเป็นการเพิ่มต้นทุน เพราะฉะนั้นค่าธรรมเนียมควรจะต้องกำหนดให้เหมาะสมกับร้านค้าเล็กเหล่านี้ด้วย
  2. สิ่งที่ง่ายกว่าการออกใบอนุญาติ คือ การกำจัดร้านค้าเถื่อนที่ขายบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะนี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุด เพราะสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ ทำให้เกิดอันตรายกับผู้สูบทุกคน
  3. การขายบุหรี่จริงก็ควรต้องได้รับใบอนุญาติด้วย เพราะจะมีประโยชน์อะไรถ้าร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าต้องมีใบอนุญาติ แต่ร้านขายบุหรี่จริงไม่ต้องมีก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ การออกใบอนุญาติให้กับร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า ก็แค่ป้องกันไม่ให้ขายบุหรี่ไฟฟ้ากับเยาวชน ซึ่งเยาวชนก็จะไปซื้อบุหรี่จริงมาสูบอยู่ และการทำเช่นนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้บุหรี่จริง และส่งเสริมให้เยาวชนสูบบุหรี่จริงมากขึ้นด้วย

สรุป

การออกกฎหมายให้ร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าต้องได้รับใบอนุญาติถึงจะขายได้ อาจช่วยให้ร้านค้าที่แอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้เยาวชนมีจำนวนลดลง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ของเยาวชน วิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหานี้ คือ การรณรงค์ ให้ความรู้ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบุหรี่ไฟฟ้า ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และลดจำนวนการเสียชีวิตจากบุหรี่จริง รวมการรณรงค์ให้ประชาชนคอยเป็นหูเป็นตาในการช่วยจับร้านค้าที่ขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานก็จะช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผู้สูบได้อีกด้วย

และวันนี้ หากสั่งซื้อกับทาง Thaipods.com เรามีบริการ บุหรี่ไฟฟ้า ส่งไลน์แมนใกล้ฉัน ที่สามารถส่งให้ถึงได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนของขาด

เช็คบุหรี่ไฟฟ้า ทุกยี่ห้อ >> https://thaipods.com/category/e-cigarette/

ดูน้ำยาทุกยี่ห้อ >> https://thaipods.com/category/e-liquid/

พอตใช้แล้วทิ้ง >> https://thaipods.com/category/disposable-vape/

อ่านต่อ: