ความรู้

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก1

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังจะเปลี่ยนแปลง จากโลกที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ที่ทำร้ายโลก และคนในโลกมายาวนาน บุหรี่ไฟฟ้าคือฮีโร่ที่กำลังจะทำให้โลกไม่มีควันบุหรี่อีกต่อไป แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญ และประโยชน์ของบุหรี่ไฟฟ้า เพียงเพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกให้การสนับสนุน และรณรงค์ให้คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า ในทางกลับกันบางประเทศก็กีดกัน และสร้างความเข้าใจผิดมากมาย เพื่อให้บุหรี่ไฟฟ้ายังคงผิดกฎหมาย และไม่ได้รับการยอมรับ หนึ่งในการสร้างความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงอย่างหนึ่งคือ การกำหนดราคาบุหรี่ไฟฟ้าให้แพงกว่าปกติ ทั้งที่จริงแล้วการเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าการสูบบุหรี่จริงมาก และนี่คือ 5 ประเทศที่ราคาบุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก2

1 ประเทศออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศท่องเที่ยวที่มีครบทุกอย่างที่รอให้คุณไปเยือนสักครั้ง แต่บอกเลยว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นักสูบบุหรี่ไฟฟ้าชื่นชอบแน่ๆ เพราะราคาบุหรี่ไฟฟ้าที่นี่แพงมากๆ เพราะที่ประเทศออสเตรเลีย คนที่จะสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้จำเป็นจะต้องมีใบสั่งยา และคนที่ได้รับอนุญาตก็มีเพียง 12% หรือประมาณ 1 ล้าน คนเท่านั้นจากคนทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้บุหรี่ไฟฟ้าจึงมีราคาแพง และเข้าถึงได้ยาก และนี่คือราคาโดยประมาณของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลีย

  • เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ราคาประมาณ 55 ดอลลาร์ (ประมาน 1,870 บาท)
  • อุปกรณ์ต่างๆ ราคาประมาณ 95 ดอลลาร์ (ประมาน 3,230 บาท)
  • น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 10 มล. ราคาประมาณ 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 340 บาท

อย่างไรก็ตามยังมีบุหรี่ไฟฟ้าที่แอบขายอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งมีราคาแพงยิ่งกว่าเดิม เมื่อร้านบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกกฎหมายถูกบีบให้เลิกกิจการ ทำให้ผู้ที่กล้าเลี่ยงที่จะแอบขายสามารถโก่งราคาขึ้นจากปกติที่แพงอยู่แล้วให้แพงขึ้นอีกหลายเท่า และที่แย่ยิ่งกว่า คือ หากคุณถูกจับได้ว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย คุณจะถูกปรับถึง 45,000 ดอลลาร์ หรือประมาน 1,530,000 กันเลยทีเดียว หรืออาจจะถึงขั้นติดคุกได้เลย

“การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดถือเป็นความผิดทางอาญา และมีโทษทางแพ่ง ค่าปรับสูงสุด 1,110,000 ดอลลาร์ สำหรับบุคคลธรรมดา และสำหรับองค์กร โทษปรับสูงสุดคือ 11,100,000 ดอลลาร์” โฆษกหญิงของ TGA กล่าว

อ้างอิงจาก : https://www.smh.com.au

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก3

2 ประเทศโปรตุเกส

ประเทศโปรตุเกสเป็นประเทศที่มีการเก็บภาษีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุดในยุโรป โดยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินจะถูกเรียกเก็บภาษีอยู่ที่ 0.32 ยูโรต่อมล. และเพิ่มอีก 3.20 ยูโรต่อน้ำยา 10 มล. อีกทั้งยังต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 23% สรุปแล้วน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขวด 10 มล. 1 ขวด จะมีราคาประมาณ 7 ยูโร หรือประมาณ 267 บาทกันเลยทีเดียว อีกทั้งประเทศโปรตุเกสเป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำ พิจารณาจาก GDP ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ทำให้ราคาบุหรี่ไฟฟ้าที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นราคาที่สูงมากๆ

“ในโปรตุเกส น้ำยา Saltnic 1 ขวด มีราคา 5.25 ยูโร มีภาษีอยู่ที่ 0.32 ยูโรต่อมล. นอกเหนือจากนั้นแล้ว ยังมีภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 23%” ซูซานา คันฮา ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก4

3 ประเทศฟินแลนด์

ฟินแลนด์ประเทศที่ถูกขนาดนามว่าเป็น รัฐพี่เลี้ยงของยุโรป เนื่องจากกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวด และฟินแลนด์ยังเป็นประเทศที่ภาษีบุหรี่ไฟฟ้าแพงเป็นอันดับ 2 ของยุโรป โดยตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีราคาแพงมาก แต่น้ำยาไม่ต้องพูดถึง เพราะแพงสุดๆ ถึง 9.90 ยูโร หรือประมาณ 378 บาท ราคาที่สูงขนาดนี้ เมื่อรวมกับข้อจำกัดด้านการตลาด การขาย และการรายงานข่าวเชิงลบ ทำให้ประเทศฟินแลนด์มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพีบง 1-2% เท่านั้นจากจำนวนประชากรทั้งหมด

“น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศเราจำกัดให้ใช้ได้เฉพาะรสยาสูบเท่านั้น และมีภาษีอยู่ที่ 0.3 ยูโรต่อมล. ทั้งที่มีนิโคติน และไม่มีนิโคติน และเพิ่มขึ้นอีก 3 ยูโร ต่อขวด 10 มล. ทำให้ราคามาตรฐานของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าในฟินแลนด์อยู่ที่ 9.90 ยูโร ”  Vapers Finland

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก5

4 มินนิโซตา สหรัฐอเมริกา

มินนิโซตา ถูกขนานนามว่า ดินแดนแห่งทะเลสาป 10,000 แห่ง และยังเป็นรัฐที่ราคาบุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศอเมริกานั้นเป็นที่นิยม และแพร่หลายมาก มีชาวอเมริกันถึง 9% ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ และถึงแม้ว่าจะไม่มีกฎหมายภาษีบุหรี่ไฟฟ้าจากรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ แต่ในมากกว่า 50 รัฐ จะมีการกำหนดอัตราภาษีบุหรี่ไฟฟ้าภายในรัฐที่แตกต่างกันไป แต่ในภาษีบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐมินนิโซตานั้นโหดร้ายกว่ารัฐอื่นๆ โดยภาษีบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 95% ของต้นทุนผลิตภัณฑ์ อัตราภาษีนี้ออกในปี 2566 ขึ้นภาษีจาก 35% เป็น 95% ส่งผลให้ราคาขายปลีกพุ่งสูงขึ้นมาก จนทำให้ราคาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 10 มล. 1 ขวด สูงถึง 20 ดอลลาร์ หรือประมาณ 680 บาท

อัตราภาษีนี้ทำให้ชาวมินนิโซตาหลายพันคนไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ และถูกขัดขางไม่ให้เลิกบุหรี่ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลย

อ้างอิงจาก : https://www.realclearpublicaffairs.com

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก6

5 ประเทศมาลาวี

ในประเทศมาลาวีผู้ที่สามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้มีแต่คนที่ร่ำรวยเท่านั้น เพราะบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศมาลาวีมีราคาที่แพงมากๆ จนคนธรรมดาไม่สามารถที่จะจ่ายได้ แต่ราคาบุหรี่มวนกลับถูกมากๆ ความไม่เท่าเทียมนี้ทำให้ชาวมาลาวียังคงต้องสูบบุหรี่จริงกันต่อไป โดย Chimwemwe Ngoma จาก Tobacco Harm Reduction Malawi อธิบายว่า

บุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกที่สุดที่ฉันเคยเจอในมาลาวีราคาประมาณ 75 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,550 บาท แต่บุหรี่ 1 ซอง ราคาประมาณ 1 ดอลลาร์ หรือ 34 บาท เท่านั้น ดังนั้นบุหรี่ไฟฟ้าในมาลาวีจึงเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนรวยเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

อ้างอิงจาก : https://www.ecigarettedirect.co.uk

บุหรี่ไฟฟ้าแพงที่สุดในโลก7

สรุป

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ควรได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ในฐานะนวัตกรรมที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกให้ปราศจากควันบุหรี่ แต่จนถึงปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ายังคงถูกโจมตีด้วยข่าวที่ไม่เป็นความจริง และถูกแบนในบางประเทศด้วยสาเหตุที่ไม่สมเหตุสมผล รวมถึงการกำหนดอัตราภาษี หรือราคาขายให้แพงจนคนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ผู้คนจำนวนมากมายเหล่านี้จึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับสารเคมี และสารพิษในบุหรี่ที่คอยบ่อนทำลายตัวเอง ทำร้ายคนรอบข้าง และทำร้ายโลกใบนี้ต่อไป

อ่านต่อ: