หากคุณเป็นคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่ด้วยการเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า หรือเพิ่งเริ่มต้นใช้บุหรี่ไฟฟ้า มีเรื่องที่คุณควรจะทราบอยู่ไม่กี่ข้อ เพื่อให้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของคุณ ไม่ต้องถูกรบกวน และปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณมากยิ่งขึ้น โดยบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
มารยาทในการสูบ และสถานที่ที่เหมาะกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ถึงแม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ได้รบกวน หรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อคนรอบข้างเหมือนกับบุหรี่จริง แต่สำหรับบางคน หรือบางสถานที่ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงเป็นการสูบบุหรี่อยู่ดี ดังนั้นคุณจึงควรจะต้องตรวจสอบให้ดีว่าสถานที่ที่คุณอยู่มีกฎระเบียบอะไรบ้างหรือไม่ เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคุณควรจะต้องปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงการสูบในที่ที่มีเด็กๆ อยู่ และในที่อับที่มีบุคคลอื่นอยู่ด้วย
สถานที่ใดบ้างที่สามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างอิสระ?
- ที่บ้าน – บ้านเป็นสถานที่ส่วนตัวที่คุณสามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลใดๆ เลยว่าจะมีใครมาตำหนิ หรือต่อว่าคุณได้ แต่คุณก็ควรจะเปิดประตู หรือหน้าต่างไว้ด้วย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นจากควันบุหรี่ไฟฟ้าสะสมอยู่ภายในบ้านของคุณ เพราะถึงแม้ว่าควันจากบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อสิ่งแวดล้อม แต่มันก็อาจทิ้งกลิ่น หรือคราบไว้ที่ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ของคุณได้ รวมถึงถ้าที่บ้านของคุณมีเด็ก คนท้อง หรือคนแก่ อาศัยอยู่ด้วย คุณก็ควรที่จะออกมาสูบนอกบ้าน หรือบริเวณที่ห่างจากสมาชิกเหล่านี้ในบ้านของคุณ
- บนรถยนต์ส่วนตัว – ในความเป็นจริงแล้วการสูบบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าขณะขับขี่รถยนต์เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และไม่ควรทำ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายบนท้องถนนได้ แต่เมื่อจอดอยู่ หรือเดินทางถึงที่หมายแล้ว บนรถยนต์ของคุณนี่แหละที่คุณจะสามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าของคุณได้อย่างอิสระที่สุดแล้ว
- ในพื้นที่ที่เปิดโล่ง – เป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าถ้าหากคุณจะสูบบุหรี่ ควรไปสูบในพื้นที่ที่เปิดโล่ง และไม่มีผู้คนแออัด บุหรี่ไฟฟ้าก็เช่นกัน เพราะการสูบในพื้นที่เปิดโล่ง ควันของคุณจะลอยไปได้ไกล และจางหายไปเอง ไม่รอบกวนตัวคุณ และคนรอบข้าง แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่า ณ ที่นั้นๆ อนุญาตให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่
อ้างอิงจาก : https://www.ncbi.nlm.nih.gov
สถานที่ใดบ้างที่ไม่ควรสูบบุหรี่ไฟฟ้า?
- บาร์ หรือร้านอาหาร – บาร์ หรือร้านอาหารบ้างแห่งอนุญาตให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าภายในร้านได้ แต่บางร้านก็ไม่อนุญาต เพราะฉะนั้นคุณควรถามพนักงานให้แน่ใจ ว่าคุณสามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้หรือไม่ และถึงแม้ว่าพนักงานจะตอบว่าสามารถสูบได้อย่างอิสระ แต่คุณก็ควรจะต้องรักษามารยาทในการสูบ เพราะแน่นอนว่าภายในร้านอาหารนั้นๆ จะต้องมีลูกค้าท่านอื่นนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะรอบข้างของคุณ คุณจึงควรที่จะต้องระมัดระวังในการพ่นควัน ไม่ให้รบกวนลูกค้าโต๊ะอื่น โดยอาจจะพ่นควันไปที่ใต้โต๊ะ หรือพ่นไปทางที่ไม่มีคนอยู่นั่นเอง
- บนเครื่องบิน – การสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และเมื่อคุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน ควัน และความชื้นของคุณจะวนเวียนอยุ่ภายในเครื่อง เป้นการรบกวน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อผู้โดยสารท่านอื่น แต่หากคุณจำเป็นต้องพกบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องไปด้วย ให้เก็บบุหรี่ไฟฟ้าไว้กับตัว เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่ ไม่ควรที่จะร้อนใต้ท้องเครื่อง เพราะความร้อนอาจทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้
- ขนส่งสาธารณะทุกประเภท – ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถทัวร์ รถไฟ หรือรถแท็กซี่ คุณก็ไม่ควรที่จะหยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบทั้งสิ้น เพราะเป็นการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ทางที่ดีคืออดทนจนกว่าคุณจะลงจากรถ แล้วค่อยสูบ แต่ถ้าหากขนส่งสาธารณะที่คุณใช้บริการอยู่ มีที่สำหรับสูบบุหรี่ คุณสามารถไปสูบในที่นั้นๆ ได้เลย
ปริมาณนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อวันคือเท่าไร?
การเลือกปริมาณนิโคตินเป็นเรื่องสำคัญในการใช้บุหรี่ไฟฟ้า หากคุณเป็นคนที่กำลังพยายามเลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่กำลังเลิกบุหรี่มักจะเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินต่ำ เพราะคิดว่าจะช่วยให้คุณเลิกได้ง่ายขึ้น แต่มันไม่จริงเลย เมื่อคุณในน้ำยาที่มีนิโคตินปริมาณน้อย คุณจะรู้สึกว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เต้มอิ่มเท่ากับการสูบบุหรี่จริง และกลับมาสูบบุหรี่จริงในที่สุด ดังนั้นคุณควรจะเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีปริมาณนิโคตินที่สูง เพื่อตอบสนองความต้องการนิโคตินของคุณ และทำให้ความอยากสูบน้อยลง วิธีการนี้จะช่วยให้คุณสูบในจำนวนครั้งที่น้อยลง และเมื่อคุณเริ่มชินกับการสูบแบบนี้ ค่อยลดปริมาณนิโคตินของคุณลง ก็จะช่วยให้คุณเลิกนิโคตินได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้สูบหนัก อาจจะใช้เพื่อเข้าสังคม หรือใช้เมื่อสังสรรค์กับเพื่อนๆ เท่านั้น คุณควรเลือกน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินปริมาณน้อย เนื่องจากร่างกายของคุณไม่ได้ต้องการนิโคตินปริมาณมากอยู่แล้ว อีกทั้งนิโคตินที่มากเกินไป อาจทำให้คุณแสบคอ และปวดหัวอีกด้วย
อ้างอิงจาก : https://www.vapesuperstore.co.uk
จำนวนคำในการสูบที่เหมาะสมคือเท่าไหร่?
จากคำตอบของผู้เชี่ยวชาญบางคน กล่าวว่า จำนวนคำที่เหมาะสมที่สุดในการยกบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบ 1 ครั้ง คือ 2-3 คำ เพราะในแง่ของการเลิกสูบบุหรี่จริง การสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพียง 2-3 คำ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คุณรู้สึกเต็มอิ่มเท่ากับการสูบบุหรี่จริงจนหมดมวน แต่ผู้สูบบุหรี่จริงจำนวนมากไม่คุ้นเคยกับการสูบเพียง 2-3 คำ พวกเขาจึงสูบมันเหมือนกับการสูบบุหรี่จริง ซึ่งนั้นมากเกินความต้องการ แต่อย่างไรก็ตามจากการสำรวจ พบว่า ผู้ที่กำลังเลิกสูบบุหรี่จริง จะเริ่มคุ้นเคยกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในจำนวนคำที่น้อยกว่าได้เอง เมื่อสูบไปได้สักระยะหนึ่ง
เมื่อใดที่ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ไฟฟ้า?
โดยปกติแล้วทุกคนควรที่จะหยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้าบ้างเป็นระยะเวลาสั้นๆ 2-3 วัน เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ และดื่มสุรา โดยเฉพาะในเวลาที่คุณมีนัดตรวจสุขภาพ หรือต้องไปหาหมอฟัน เพราะเมื่อคุณต้องไป อุดฟัน หรือถอนฟัน ทันตแพทย์ของคุณอาจขอให้คุณหยุดสูบบุหรี่ไฟฟ้าสัก 2 วัน เนื่องจากนิโคตินมีผลทำให้บาดแผลหายช้าลง การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจึงอาจส่งผลต่อการรักษาได้ รวมถึงการนัดหมายทางการแพทย์ เช่น นัดผ่าตัด หรือตรวจสุขภาพก็เช่นกัน แพทย์มักจะแนะนำให้คุณหยุดพักการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในช่วงก่อนเข้ารับการรักษา และช่วงพักฟื้น เพราะนิโคตินสามารถรบกวนการทำงานของยาบางชนิด และเปลี่ยนการทำงานของยานั้นๆ ได้ ส่งผลให้ใช้เวลาในการรักษานานขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
อ้างอิงจาก : https://vape.london
สรุป
ปัจจุบันการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่สำคัญในการเลิกสูบบุหรี่ แต่ถึงแม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีข้อดีมากมาย แต่ที่ต้องตระหนัก คือ คุณก็ยังคงสูบนิโคตินอยู่ดี คุณจึงต้องศึกษาผลกระทบของนิโคตินต่อร่างกายของคุณด้วย อีกทั้งการสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ได้รับการยอมรับจากคนบางกลุ่ม เพราะฉะนั้นคุณยังคงต้องรักษามารยาทในการสูบเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ คุณไม่สามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างอิสระทุกที่ทุกเวลาขนาดนั้นได้
อ่านต่อ: