สาเหตุของอาการไอของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า และวิธีแก้

ผู้ที่เริ่มต้นสูบบุหรี่ไฟฟ้าใหม่ๆ มักจะพบว่าตนเองมีอาการไออยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเกือบทุกคน โดยอาการไอนี้เป็นปฏิกิริยาทางร่างกาย เมื่อมีบางสิ่งที่ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ อาการไอนี้จึงเกิดขึ้นได้เสมอทั้งในผู้สูบบุหรี่จริง และผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมักจะมาจากการสูบที่ผิดวิธี หรือการเลือกน้ำยาที่ไม่เหมาะกับตัวเองมาใช้ แต่อย่างไรก็ตามอาการไอควรที่จะบรรเทาลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากเริ่มสูบ แต่จะไม่หายขาด และบทความนี้จะบอกเล่าถึงสาเหตุของอาการไอ และวิธีที่ทำให้ไอน้อยลง

สาเหตุของอาการไอของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า

1 ปริมาณ PG ที่สูงเกินไป

PG หรือ โพรพิลีนไกลคอล เป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะทำงานร่วมกับ VG หรือ กลีเซอรีนจากพืช ส่วนผสม 2 อย่างนี้คิดเป็น 80% จากส่วนผสมทั้งหมดในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า โดยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสัดส่วนของ PG VG ที่ไม่เท่ากัน เช่น PG 40% VG 60% หรือ 50/50 สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มี PG สูง จะส่งผลให้การสูบมีความกระด้างในลำคอมากกว่า โดยตามเกณฑ์มาตรฐาน PG ที่สูงที่สุดจะอยู่ที่ 50% โดย PG จะทำหน้าที่ในเรื่องของควันที่ค่อนข้างกระแทกคอ ซึ่งช่วยให้ความรู้สึกเหมือนการสูบบุหรี่จริงยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียก็คือบางคนอาจมีอาการแพ้ได้ และนั่นทำให้เกิดอาการไอ รวมถึงการใช้น้ำยาที่ PG สูง ร่วมกับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง ก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการไอมากขึ้นได้

อ้างอิงจาก : https://www.pure-eliquids.com

วิธีแก้ไข :

ลองเปลี่ยนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นน้ำยาที่มีส่วนผสมของ VG สูงกว่า เช่น VG 70% PG 30% รวมถึงควรเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟต่ำลง ก็จะช่วยบรรเทาอาการไอได้

2 ระดับนิโคตินที่สูงเกินไป

อีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้ในการทำให้เกิดอาการไอ คือ ระดับนิโคตินในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับบุหรี่ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง โดยบางคนมีอาการไอตามประเภทของนิโคติน เช่น นิโคติน Freebase ซึ่งมีระดับ pH ที่สูงกว่า

วิธีแก้ไข :

ลองเปลี่ยนไปใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินต่ำลง หากคุณใช้น้ำยาที่มีระดับนิโคติน 30 มก. ให้ลองลดลงเหลือ 20 มก. หรือน้อยกว่านั้น และลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงสัก 1-2 สัปดาห์ รวมถึงถ้าคุณเป็นคนที่สูบจัด ให้ลองเปลี่ยนประเภทของน้ำยาเป็นน้ำยาแบบ Saltnic แทน เพราะน้ำยา Saltnic ส่งผลดีต่อลำคอ และดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

3 รสชาติ

ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาต่อส่วนผสมของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแตกต่างกัน เช่น บางคนแพ้ PG บางคนแพ้ VG หรือบางคนแพ้นิโคตินที่สูงเกินไป ในขณะที่บางคนอาจไม่เหมาะกับบางรสชาติ เคยมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ารายงานว่า รสชาติบางรสชาติ ก็ทำให้เกิดอาการไอได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากคุณทดสอบแล้วว่าคุณไม่ได้มีอาการไอจากส่วนผสมอื่นๆ สาเหตุอาจมาจากสารปรุงแต่งบางชนิด

วิธีแก้ไข :

เมื่อคุณทดสอบแล้วว่าอาการไอของคุณไม่ได้เกิดจากส่วนผสมอื่น ให้ลองเปลี่ยนรสชาติที่สูบเป็นประจำ แล้วสังเกตว่ามีอาการไอน้อยลงหรือไม่

4 การบำรุงรักษาที่ไม่ดีพอ

การบำรุงรักษาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่สามารถทำให้เกิดอาการไอได้ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วยอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมกับคอยล์อาจทำให้คอยล์ร้อนเกินไป และไหม้ได้ ซึ่งการสูบบุหรี่ไฟฟ้าด้วยคอยล์ที่ไหม้จะทำให้คุณระคายเคืองลำคอ โดยคุณจะรู้ได้ทันทีว่าคอยล์ของคุณไหม้อยู่หรือไม่จากรสชาติของมัน

วิธีแก้ไข :

ทำความสะอาด และเปลี่ยนคอยล์บ่อยๆ และให้เลือกใช้คอยล์กับถังน้ำยาที่เหมาะสมเสมอ

5 สารทาร์ตกค้างหลังจากเลิกบุหรี่

ถ้าหากคุณเป็นคนที่เพิ่งเลิกสูบบุหรี่จริง และเพิ่งเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า คุณอาจมีอาการไอจากสารทาร์ที่ตกค้างอยู่ในปอด และลำคอของคุณ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนที่เพิ่งเลิกสูบบุหรี่ เพราะหลังจากที่คุณเลิกสูบบุหรี่ปอดของคุณจะเริ่มกำจัดสารตกค้างเหล่านี้ออกด้วยการไอ ซึ่งคุณจะไอแบบนั้นเป็นเวลาหลายสัปดาห์จนกว่าปอดของคุณจะกำจัดสารทาร์เหล่านี้ออกไปได้จนหมด

วิธีแก้ไข :

ไม่มีวิธีแก้ไขสำหรับอาการไอประเภทนี้ จนกว่าปอดของคุณจะกำจัดสารทาร์นี้ออกไปได้หมด อย่างไรก็ตามมีวิธีที่จะบรรเทาอาการไอนี้ได้ คือ การดื่มน้ำมากๆ หรือดื่มน้ำผึ้งสัก 2-3 ช้อนชา แต่ถ้าไอมากจนทนไม่ไหว ให้ลองใช้ยาแก้ไอ

https://smoko.com/blogs/how-to-use-an-e-cigarette/cough-when-vape-how-to-stop

สรุป

เป็นเรื่องปกติที่ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามือใหม่จะมีอาการระคายเคืองคอเล็กน้อยเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งบางส่วนเกิดจากวิธีสูบที่ไม่ถูกต้อง และการเลือกใช้น้ำยาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งควรจะหายไปในไม่กี่วัน หรือเป็นสัปดาห์ โดยคุณสามารถอ่านบทความนี้ และพยายามหาสาเหตุการไอที่แท้จริงของคุณให้เจอ และแก้ปัญหาตามวิธีที่เราแนะนำไป

อ่านต่อ: